ปฏิกิริยาบรรดา “นักการเมือง” ที่ออกมาวิพากษ์โครงสร้างการเลือกตั้งตามคำชี้แจงของ “กกต.”
เป็นเหมือน “เพลง” บท “เก่า”
เพราะเป็นเพลงที่พวกเขาเคยประสานเสียงตั้งแต่มีการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าชุดของ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ไม่ว่าชุดของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์
เป็นบทเพลงอันสะท้อนความต้องการในการสืบทอดอำนาจ
โดยการใช้ “รัฐธรรมนูญ” และกฎหมาย “ลูก”ประกอบรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือ
แต่ในความเห็น 1 ของ “นักการเมือง”น่ากลัวอย่างยิ่ง
นั่นก็คือ เหมือนกับเป็นวาง “กับดัก” แต่คสช.นั่นแหละจะต้องติด “กับดัก”ตนเอง
ไม่ว่าจะฟังความเห็นจาก นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ไม่ว่าจะฟังความเห็นจาก นายนิกร จำนง
ปัญหาจะเกิดหลัง “เลือกตั้ง”
นั่นก็คือ นายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองก็ยาก นายกรัฐมนตรีคนนอกก็ยาก
ไม่เพียงเป็นยาก หากบริหารก็ยาก
ยากเพราะว่าพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากไม่ได้เป็นรัฐบาล กลายเป็นฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมาก
รัฐบาลที่มาจากเสียงข้างน้อยก็ทำอะไรไม่ได้
แค่เสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่านความเห็นชอบก็ไปไม่เป็นแล้ว หากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา
ความปั่นป่วน ความวุ่นวายก็จะตามมา
กฎหมายลูกอันอนุวัตรไปตาม “รัฐธรรมนูญ”แบบนี้นำไปสู่หนทาง เดียวเท่านั้นในอนาคต
นั่นก็คือ รัฐประหาร
เมื่อเกิดรัฐประหารจะรักษา “รัฐธรรมนูญ” อันเป็นตัวปัญหาก็คงไม่ดีแน่ เพราะเท่ากับยังรักษาปัญหาเอาไว้
จำเป็นต้องฉีกทิ้งเหมือนรัฐธรรมนูญอื่นๆ
วงจรที่จะตามมาก็เช่นเดียวกับรัฐประหารในอดีต นั่นก็คือ การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อันเท่ากับยื้อปัญหาที่ยืดเยื้อมาแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ให้ยาวไปอีก
“กับดัก”อย่างนี้ใครจะ “รับผิดชอบ”