ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในห้วงหลัง น่าจับตา น่าติดตาม บทบาทอย่างเป็นพิเศษ

ไม่ว่าจะมองผ่าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ไม่ว่าจะมองผ่าน นายถาวร เสนเนียม

หากเริ่มจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ตั้งแต่สัมผัสเข้ากับ 6 คำถามอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นคำถามที่ไม่น่า “ถาม”

หากเริ่มจาก นายถาวร เสนเนียม ก็ตั้งแต่สัมผัสเข้ากับการคุมตัวแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางเข้าค่ายทหาร ไม่ว่าจะเป็นที่ตรัง ไม่ว่าจะเป็นที่พัทลุง

ยิ่งในห้วงแห่งการปรับครม. พรรคประชาธิปัตย์ยิ่งมากด้วยความเข้มข้น

สื่อซึ่งเคยยืนข้างพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอดลงความเห็นตรงกันว่าพรรคประชาธิปัตย์เริ่มเปลี่ยน

เสียงที่เปล่งออกมาเหมือนๆกับพรรคเพื่อไทย

คล้ายกับว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้กลายเป็นพันธมิตรในแนวร่วมเดียวกัน

ต้านบทบาทของ “คสช.”

อย่าว่าแต่พรรคประชาธิปัตย์เลยที่เปลี่ยน แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยก็เปลี่ยน

สายตาที่มอง “คสช.”เริ่มแปลกแปร่ง

บางคนอาจลงความเห็นว่ามาจาก 6 คำถามซึ่งชี้ทิศทางเด่นชัดว่าคสช.ไม่เอาพรรคการเมืองเก่า หากต้องการพรรคการเมืองใหม่มากกว่า

อาจใช่ แต่มีมากกว่านั้น

ไม่ว่าจะมีความพยายาม “ยื้อ”เวลาของ “การเลือกตั้ง” ยาวนานสัก เพียงใด แต่ทุกคนย่อมรู้ว่า

จะต้องมี “การเลือกตั้ง” อย่างแน่นอน

และพลันที่ “โหมด”การเลือกตั้งเดินทางมาถึง ท่าทีของพรรคการเมืองก็ย่อมจะต้องแสดงความเด่นชัด

ความเด่นชัด 1 ก็คือ จะต้องตี “คสช.”

พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่าจำเป็น พรรคภูมิใจไทยก็รู้ดีว่าจำเป็น ทั้งนี้ แทบไม่ต้องพูดถึงพรรคเพื่อไทย

การเลือกตั้งจะทำให้คสช.เป็น “ตำบลกระสุนตก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน