กรณีที่คสช.แจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ร.ท.หญิงสุณา เลิศภควัต ใน 2 ความผิด
1 ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 15
1 ผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยง ปลุกปั่น
ก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง
ร้ายแรง
ร้ายแรงเหมือนกับที่เคยมีการแจ้งความร้องทุกข์ในกรณีของ นายวัฒนา เมืองสุข
และในกรณีของ นายประวิตร โรจนพฤกษ์
เพราะว่ามิได้จำกัดแต่เพียงเรื่อง”หมิ่นประมาท”หากแต่ขยายไปยังมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา
ความร้ายแรงนี้เกิดมาจากปัจจัยอะไร
หากศึกษาจากรายละเอียดการแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดี มีมูลมาจากการโพสต์ข้อความผ่าน”เฟซบุ๊ก”
กรรม 1 มาจากกรณี”ซ่อม”จน “ทหาร”ตาย
กรรม 1 มาจากกรณีกิจกรรมของ ตูน บอดี้สแลม จากเบตง-แม่สาย
กรรม 1 มาจากกรณีในภาคใต้
นั่นก็คือ การส่งเสียงดังที่ตลาดปลา ปัตตานี และการจับผู้เดินเท้า เคลื่อนไหวที่แยกสำโรง สงขลา
เราไม่รู้ว่า “หมวดเจี๊ยบ”ใช้”ข้อความ”ดุเดือด แค่ไหนเพียงไร
แต่ที่แน่ๆก็คือ ไม่ว่าเรื่อง”ซ่อม” ไม่ว่าเรื่อง ตูน บอดี้สแลม ไม่ว่าเรื่องเสียงจากตลาดปลา ปัตตานี ตลอดจนการจับคนที่เดินต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินที่แยกสำโรง สงขลา
เป็นการเคลื่อนไหวอันสัมพันธ์กับรัฐบาลและคสช.
ความจริง ไม่ว่า นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่า นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ไม่ว่า ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต
ก็เสนอ”ทัศนะ”ต่อ”สถานการณ์”และการเคลื่อนไหว
เหมือนกับที่บรรดาสื่อ”หนังสือพิมพ์”ทั้งหลายสำแดงผ่านบท บรรณาธิการและช่องทางความเห็นอื่นๆ
หากจะล่วงล้ำ ก้ำเกิน ก็อาจเป็นคดี”หมิ่นประมาท”
แต่ที่จะไปไกลถึงระดับเป็นการปลุกปั่น ก่อให้เกิดการกระด้างกระเดื้องโดยมีเจตนาจะล้มรัฐบาลนั้น
เพียงแต่แสดงออกผ่าน”เฟซบุ๊ก”ผ่าน”ออนไลน์”