กรณีการตรวจพบอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด ณ บึงน้ำ ต.บาง น้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
ได้ก้าวเข้าสู่อีก”มิติ”สำคัญของ “คดีความ”
เพราะไม่เพียงแต่ คสช.มีมติให้เข้ากระบวนการยุติธรรมอย่าง บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม
เพราะเปิด “ไฟเขียว” อย่างเต็มที่
รูปธรรม 1 คือ การปล่อยตัว นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร รูปธรรม 1 คือ การไม่คัดค้านการประกันตัว พล.ท.มนัส เปาริก ในชั้นเจ้าพนักงานสอบสวน
หากที่สำคัญ คือ ท่าทีและความเคลื่อนไหวอันมาจาก นายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งอยู่นอกประเทศ
รายหลังนี่ต่างหากที่ละเอียดอ่อน
ความละเอียดอ่อน 1 อยู่ตรงที่ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า นายจักรภพ เพ็ญแข อยู่ที่ไหน
ที่สงสัยว่าอยู่ใน “กัมพูชา”
คำปฏิเสธอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลประเทศกัมพูชาประชาธิปไตยก็เด่นชัด
กรณีของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงเหมือนกับ”ใคร”บางคน
ใครบางคนที่มากด้วยข่าวลือ ข่าวปล่อย แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่แห่งหนตำบลใดกันแน่
นั่นก็ตามมาด้วยความละเอียดอ่อนอีก 1
“สิ่งที่ผมจะทำต่อไปจากนี้คือ จะเดินทางเยี่ยมเยียนมิตรประ เทศของเราจำนวนมาก รวมทั้งสำนักงานตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลเพื่อแถลงความบริสุทธิ์ของเรา”
นี่ย่อมเป็นอีก”โจทย์” 1 ทางการเมืองระหว่างประเทศ
มีความจำเป็นที่คสช.และรัฐบาลต้อง”เร่ง”ในการสกัดเส้นทางของ นายจักรภพ เพ็ญแข
1 เป็นเส้นทางระหว่าง”มิตรประเทศ”
1 เป็นเส้นทางไปยังสำนักงานใหญ่ตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ที่กรุงปารีส
สำแดง”หมายจับ”ให้เป็นที่ “ประจักษ์”
หากหมายจับอันออกโดย”ศาลอาญา”ไม่สามารถทำอะไรต่อ การเคลื่อนไหวของ นายจักรภพ เพ็ญแข ได้ก็หวาดเสียวยิ่ง
หวาดเสียวต่อฐานะและเกียรติภูมิ