ทำไมการไม่ไปร่วมในงาน “วันกองทัพบก”ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงกลายเป็นประเด็น

กระทั่งนำไปสู่ “หัวข่าว”ใหญ่

มีความจำเป็นต้องมีคำชี้แจงออกมาจากสำนักงานรัฐบุรุษอาวุโส

อาจเป็นเพราะ “สถานะ”

1 เป็นสถานะขององคมนตรีและเป็นสถานะของประธานองคมนตรี

ขณะเดียวกัน 1 เป็นสถานะของอดีตนายกรัฐมนตรี

แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยัง 1 เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเคยเป็น ผบ.ทบ.

การไป หรือไม่ไปของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงเป็น “ข่าว”

กระนั้น ยังมีบาง “บริบท” ซึ่งมากด้วยความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูง นั่นก็คือ การเสนอ “ความรู้สึก” ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

โดยเฉพาะเมื่อเช้าวันที่ 28 ธันวาคม

เป็นการเสนอความรู้สึกอย่างเป็นส่วนตัวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่นำคณะเข้าอวยพรและขอพรปีใหม่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ให้พรยาวเหยียดด้วยความห่วงใยเป็นอย่างสูง

ห่วงใยว่า “กองหนุน” แทบไม่เหลืออยู่แล้ว

การแสดงความรู้สึกส่วนตัวเช่นนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แสดงออกเสมอ เพราะหากไม่ห่วงอาทรก็คงไม่บอก ก็คงไม่เตือนโดยเลือกเอาเป็นวาระสำคัญ

เท่ากับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ช่วยชี้ “ขุมทรัพย์”ให้

ที่การเตือนว่าด้วย “กองหนุน”จากปาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้กลายเป็น “ประเด็น”

และทวีความแหลมคมมากเป็นลำดับ

ประการ 1 มาจากการตีความซึ่งแตกต่างกันเป็นอย่างมากของผู้ได้รับ “สาร”

ประการ 1 ได้ปรากฏการเผยแสดงของ “กองหนุน”มากขึ้น

เพียงแต่เป็นการเผยแสดงอันแตกต่างไปจากในห้วงหลังรัฐประหารอย่างเกือบจะสิ้นเชิง

นั่นก็คือ เป็นการเผยแสดงในเชิงไม่เห็นด้วยกับ “คสช.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน