ในที่สุด คสช.และรัฐบาลก็เริ่มให้ความสนใจต่อการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นความสนใจไปใน 2 ประเด็น
1 ประเด็นที่ว่า 2 คนนี้ใช้หนังสือเดินทางประเภทอะไร หรือมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก
ขณะเดียวกัน 1 คือ ประเด็นอันเกี่ยวกับ”ล็อบบี้ยิสต์”
ความสนใจเช่นนี้ของคสช.และรัฐบาลเป็นเรื่องที่สมควรกระทำ เพราะว่าหากคสช.และรัฐบาลสามารถค้นหาคำตอบที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงได้
ก็จะนำไปสู่คำตอบต่อความสงสัยอันดำรงอยู่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ด้วย
นั่นก็คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หายตัวไปอย่างไร
ในบรรดาคำอธิบายที่ดีที่สุดตรงเป้าที่สุดต่อกรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มิได้มาจาก 1 กระทรวงการต่างประเทศ
มิได้มาจาก 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตรงกันข้าม มาจากการแถลงของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ในฐานะ ผบ.ทบ.
นั่นก็คือ ยอมรับว่าเป็น “ปฏิบัติการลับ”
นั่นก็คือ ยอมรับผ่านคำพูดสั้นกระชับว่า “เขามีศักยภาพ”ที่จะทำได้
แม้จะมิได้ “อธิบาย”ว่า “ทำ”ได้อย่างไร
แต่ก็ยอมรับต่อ “ศักยภาพ”ของเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลังการนำตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากประเทศ ว่าไม่ธรรมดา
ตรงนี้คือ “คำถาม”ที่คสช.ไม่มี “คำตอบ”ต่อประชาชน
ความสนใจของคสช.และรัฐบาลต่อการเดินทางมายัง จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน วัตร จึงสำคัญ
ไม่เพียงแต่สำคัญต่อ “สถานะ” ของพรรคเพื่อไทย
หากแต่ยังสำคัญต่อการดำรงอยู่อย่างมั่นคง แข็งแกร่งของคสช.และรัฐบาลด้วย
เพราะหากไม่สามารถมี “คำตอบ”ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่คสช.จะเดินหน้าเข้าสู่”การเลือกตั้ง”ได้อย่างปลอดโปร่งโล่งใจ
คำถามอยู่ที่ว่าจะ”ลงมือ”เมื่อใด เท่านั้น
