บทบรรณาธิการ
การที่สมาชิกพรรคการเมืองเก่าแก่ย้ายออกจากพรรคไปเป็นรองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ไม่ว่าด้วยเจตนาอะไร ทำให้ตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. ถูกมองว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดเจน
อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่ไม่ได้มาจากการ เลือกตั้ง
บุคคลที่จะมาบริหารกรุงเทพฯ แต่เดิมนั้นต้องนำเสนอนโยบายและแผนงานการบริหารให้เมืองหลวง พร้อมทีมงานที่เหมาะสมเป็นรองผู้ว่าฯ ด้านต่างๆ เพื่อร่วมกันบริหารจัดการให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ มีคุณภาพชีวิต และปลอดภัยสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ภารกิจนี้จึงสำคัญและเป็นความรับผิดชอบมากกว่าการเมืองระดับชาติ
นับจากเหตุการณ์รัฐประหารเป็นต้นมา อำนาจของการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบอย่างปฏิเสธไม่ได้
ผู้บริหารกทม.ที่มาจากการเลือกตั้งถูกแทนที่โดยการแต่งตั้งของคสช.
การแต่งตั้งบุคคลมาทำงานบริหารให้กรุงเทพฯ โดยที่ไม่มีผลงานดังกล่าวนี้ชัดเจนมาก่อน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่โฆษกรัฐบาลระบุว่า อีกไม่กี่เดือนการเลือกตั้งทั่วไปจะใกล้เข้ามาแล้ว การทำงานเพื่อบริหารจัดการกรุงเทพฯ ที่ควรให้ความสำคัญนี้จะดำเนินไปอย่างเต็มที่ได้อย่างไร กลับไม่มีกลไกที่จะช่วยผลักดันหรือตรวจสอบ
เพราะไม่มีใครเลยที่มาจากการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันข้อสงสัยในช่วงเวลานี้ว่า จะมีการสืบทอดอำนาจเกิดขึ้นผ่านกระบวนการเลือกตั้งหรือไม่ เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงประชาชนต่างให้ความสนใจ
นอกเหนือจากการใช้งบประมาณตามนโยบายต่างๆ แล้ว บุคลากรก็เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกจับตาว่าจะปูทางเพื่อภารกิจดังกล่าวหรือไม่
โดยเฉพาะกับคณะบริหารกรุงเทพฯ ที่เคยถูกมองว่าอำนวยความสะดวกให้กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาแล้ว
บทบาทดังกล่าวกลายเป็นภารกิจที่อยู่นอกเหนือการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ อย่างที่ควรจะเป็น
