3 โบรกให้ราคาหุ้น ALL 6-7 บาท ปลายเม.ย. เตรียมขายไอพีโอ ผู้บริหารออลล์ อินสไปร์ ลั่นครึ่งปีหลังนี้เตรียมเปิดตัวอีก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้าน

3 โบรกให้ราคาหุ้น ALL 6-7 บาท – นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดคาดว่าหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ จะสามารถประกาศราคาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ ALL จำนวน 150 ล้านหุ้น ได้ โดยในเบื้องต้น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และบล.คันทรี่ กรุ๊ป ในฐานะผู้รับประกันการจำหน่ายหุ้น ALL โดยได้มีการประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมไว้ที่หุ้นละ 6-7 บาท

แต่คงต้องติดตามการประกาศราคาอีกครั้ง และพร้อมจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นได้ในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้ ก่อนจะเข้าทำการซื้อขายและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพ.ค.นี้ โดยจำนวนหุ้นที่เตรียมจะเปิดขายดังกล่าวคิดเป็น 26.79% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO ซึ่งทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 500 ล้านบาท ชำระแล้ว 410 ล้านบาท อย่างไรก็ดี หลังมีการเดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ALL แก่นักลงทุนสถาบัน จำนวน 6 แห่ง ได้การตอบดี เบื้องต้นจะจัดสรรหุ้น IPO ให้นักลงทุนสถาบัน 30-35%

“แม้สถานการณ์ธุรกิจอสังหาฯ ในขณะนี้มีปัจจัยกดดันทั้งเรื่องเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ มูลค่าหนี้ต่อหลักประกัน หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดจนเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังไม่ค่อยสดใส แต่เชื่อมั่นว่าหลังมีประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ALL มีจุดเด่น ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไม่เหมือนเจ้าอื่นๆ คือมีการทำตลาดหลากหลายกลุ่ม ในราคาที่กลุ่มเป้าหมายเข้าถึง แต่ดีไซน์เหนือกว่าคู่แข่งรายใหญ่ที่ทำราคาในตลาดเดียวกัน ทั้งยังมีฐานลูกค่าต่างชาติด้วยประมาณ 30%”

ขณะที่นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ALL กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันทางการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน 6,354 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 60% หนือเกือบ 4,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ ยังไม่รวมยอดขายจากคอนโดมิเนียมที่จะสร้างเสร็จในปีนี้ ประกอบด้วย ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 มูลค่าโครงการ 1,588 ล้านบาท, ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 2,001 ล้านบาท และ อิมเพรสชั่น ภูเก็ต นลอดจนโครงการเดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ ทางน์โฮม มูลค่าโครงการ 1,391 ล้านบาท

สำหรับแผนครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังเตรียมเปิดตัวอีก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท โดยเป็นคอนโด 8 ชั้น 2 โครงการ และ คอนโดฯไฮไรส์ 3 โครงการ บนทำเลทองหล่อ 12 และ 16 โดยปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย โครงการดิ เอ็กเซล เป็นคอนโด 8 ชั้น จับกลุ่มเงินเดือน 25,000 บาทขึ้นไป โครงการไรส์ คอนโดฯ 8 ชั้น และคอนโดฯ ไฮไรส์ จับกลุ่มเงินเดือน 40,000 บาทขึ้นไป และอิมเพรสชั่น คอนโดฯ ลักชัวรี่ จับกลุ่มเงินเดือน 150,000 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีทาวน์โฮม เดอะ วิชั่น จับฐานลูกค้าระดับกลาง

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจตัวแทนขายอสังหาฯ ภายใต้ บริษัท ไทยดี เรียลเอสเตท จำกัด ธุรกิจ ไรส์ เวนเจอร์ ลงทุนซื้อคอนโดฯ มาปรับปรุงและขายต่อ รวมถึงธุรกิจบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ภายใต้ บริษัท ออลล์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด โดยในปี 2561 มีรายได้รวม 2,343 ล้านบาท กำไรสุทธิ 420 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ที่มีรายได้ 714 ล้านบาท กำไรสุทธิ 81 ล้านบาท โดยความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 15% เทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งอุตสาหกรรมซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรต่ำกว่า 10%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน