นายแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมใกล้จุดต่ำสุด เนื่องจากจีนซึ่งเดิมเป็นหนึ่งในกำลังซื้อต่างชาติหลักกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ ทำให้คอนโดฯ ที่เปิดขายไปช่วงก่อนหน้านี้ และทำตลาดลูกค้าจีนเป็นหลัก ต้องประสบปัญหาลูกค้าจีนทิ้งเงินดาวน์ ไม่มาโอนกรรมสิทธิ์หลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้เป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัทในการที่จะเข้าซื้อกิจการคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะบนทำเลใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ พระราม 4, ราชเทวี และทองหล่อ เป็นต้น เพื่อนำมาขายใหม่ให้กับลูกค้าคนไทย ซึ่งบริษัทมองว่าในระดับราคา 150,000-180,000 บาท/ตร.ม. หรือระดับราคาต่อยูนิตประมาณ 5 ล้านบาท ยังเป็นที่ความต้องการของคนทำงานในเมืองที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหารถติด ขณะเดียวกันบริษัทก็สามารถลดความเสี่ยงจากการรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ในกรณีที่บริษัทซื้อที่ดินมาพัฒนาเอง อีกทั้งบริษัทยังสามารถรับรู้รายได้ทันที ส่วนการเจรจาซื้อคาดว่าจะสรุปได้ในครึ่งปีหลังนี้ และจะถือเป็นการเข้ามาทำตลาดคอนโดมิเนียมเป็นครั้งแรก

ขณะเดียวกันแผนการดำเนินงานปีนี้ เตรียมเปิด 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท โครงการ นีโอ โฮม หรือบ้านแฝด 6 โครงการ มูลค่า 8,500 ล้านบาท ต่างจังหวัด 2 โครงการ มูลค่า 3,500 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การตลาด จะจับกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง วางระดับราคาสินค้าแต่ละประเภทให้เหมาะกับกำลังซื้อ กลุ่มทาวน์โฮม 2-5 ล้านบาท นีโอ โฮม 5-8 ล้านบาท บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ระดับราคาที่ 8-15 ล้านบาท พร้อมกับบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารให้ลดลง 3% เผื่อไว้ในกรณีต้องนำส่วนนี้มาใช้ในการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากมีปัจจัยลบทั้งสภาพเศรษฐกิจ และความเช้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารภายใต้มาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ (แอลทีวี) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 33,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มียอดขายรวม 32,567 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 17,000 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน

รายงานข่าวจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เหนือความควบคุม โดยเฉพาะเหตุการณ์ไวรัสโคโรนา ในประเทศจีน และแพร่ระบาดในหลายประเทศ ทำให้ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณโครงการคอนโดมิเนียมที่ทำการตลาดไปก่อนหน้านี้ และมีการตัดล็อตขายให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือเอเจนต์ เพื่อขายให้กับลูกค้าจีนจะไม่มาโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และนอกตลาด ติดต่อให้หานักลงทุนเข้ามาซื้อโครงการเพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายกลางและเล็ก ที่ไม่มียอดขาย ทำให้ลังเลว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน