นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 10 ปี หรือจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากนี้เริ่มจะเข้าสู่วงจรธุรกิจรอบใหม่ แต่มาเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั้งการเกษตร ธุรกิจการบิน โรงแรม และร้านอาหาร ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวจะคลี่คลายในไม่ช้า

ขณะเดียวกันอยากเสนอให้ภาครัฐมีการเร่งรัดการออกใบอนุญาตก่อสร้าง และการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้เร็วขึ้นซึ่งขณะนี้ยังใช้เวลา 6 เดือน-1 ปี ซึ่งกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ ประกอบกับยิ่งอนุมัติเร็วเท่าไรก็เกิดการจ้างงานมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีผลต่อการจ้างงานมหาศาลในระบบเศรษฐกิจ ตั้งแต่ภาคการผลิต อาทิ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนอุตสาหกรรมก่อสร้าง

อีกทั้งต้องการให้ภาครัฐลดความคลุมเครือในเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ปี 2563 เป็นปีแรก หรืออาจเลื่อนการจัดเก็บออกไปก่อนในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านและโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากปัจจุบันคนซื้อเก็งกำไรหายไปจากตลาดเกือบหมดแล้ว จะเหลือเพียงซื้อเพื่อความจำเป็นในการอยู่อาศัย นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) แม้ว่าล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะผ่อนปรนเกณฑ์บางส่วนแล้ว แต่ปัญหาคือ ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ยากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่การลดค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนอง

ในส่วนของผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองในขณะนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งนอกจากอัตราดอกเบี้ยจะต่ำที่สุดที่เคยปรากฎแล้ว ยังจะได้รับข้อเสนอที่ดีจากผู้ประกอบการทั้งลด แลก แจก แถม โดยเฉพาะล่าสุด สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เตรียมจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 ระหว่าง 19-22 มี.ค.นี้ ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “รัฐให้ท่าน เราให้เพิ่ม” โดยในงานจะมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นำโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม มาร่วมงานกว่า 1,000 โครงการ จึงเป็นเวทีรวมโอกาสทองทั้งหมดของต้นปีมาให้ผู้บริโภคเลือกซื้อ ซึ่งในงานจะมีทั้งโปรโมชั่นพิเศษ นอกเหนือ จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี ผู้จัดงานได้เตรียมบูธแสดงงานรวมกว่า 300 บูธ ล่าสุดมียอดจองแล้วกว่า 200 บูธ ทั้งนี้ พบว่ามีเพียง 1 รายที่ยกเลิกการออกบูธ คือ บริษัท เปรมสิตา จำกัด เนื่องจากเป็นบริษัทร่วมทุนกับนักลงทุนจีน นอกจากนี้ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเคยร่วมออกบูธและใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก แต่ปีนี้ไม่ได้เข้าร่วมงาน เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน