นิวไอแพดโปร 2018 สวยหรู ทรงประสิทธิภาพสุดๆ
นิวไอแพดโปร ของค่ายแอปเปิ้ล ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เปิดตัวอย่างฮือฮาในอาคารหรูคลาสสิคในย่านบรูกลีน นครนิวยอร์ก ด้วยการสร้างความฮือฮาให้วงการไอทีมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากอัพเกรดให้นิว ไอแพด โปร (2018) มีพลังประมวลผลที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ในบรรดา แท็บเล็ต จากทุกค่าย ยังควบรวมกับการออกแบบภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ทำให้แท็บเล็ตดังกล่าวดูสวยงาม หรูหรา และโฉบเฉี่ยวทันสมัยอย่างน่าตื่นตะลึง
เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หัวเรือหลักตามนโยบายเจาะตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของแอปเปิ้ลด้วยอีกทางหนึ่ง
มีพื้นที่เก็บข้อมูลเริ่มที่ 64 กิกะไบต์ (GB) ไปจนถึง 1 เทร่าไบต์ (TB) ราคาสูงสุดถึง 54,900 บาท! ไม่รวมออปชั่น และอุปกรณ์เสริมอย่างแป้นพิมพ์ และสไตลัส แอปเปิ้ล เพ็นซิล รุ่นที่ 2 ซึ่งใช้ได้กับเฉพาะนิว ไอแพด โปร (2018) เท่านั้น ที่ต้องซื้อต่างหาก ราคาราว 6,490 และ 4,490 บาท ตามลำดับ
ที่กล่าวมานี้เป็นเฉพาะรุ่นรองรับ Wi-Fi ถ้าต้องการรุ่นรองรับ 4G ด้วยก็จะแพงกว่านั้น โดยสนนราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่นความจุต่ำสุดที่ 33,900 และ 40,900 บาท ตามลำดับ
++++
เทคเรดาร์ เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงด้านไอที ระบุว่าจุดเด่นที่สุดอยู่ที่การออกแบบภายนอกใหม่ที่ ใหม่จริง
ตัวเครื่องบาง 5.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 468 กรัม อัตราส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องนั้นเพิ่มขึ้นมากจนทำให้นิว ไอแพด โปร แลดูแทบจะไร้ขอบและมีความสวยงามน่าใช้อย่างมากคล้ายกันกับการออกแบบในไอโฟน เอ็กซ์อาร์ (iPhone XR) สมาร์ตโฟนรุ่นน้องเล็กที่แอปเปิ้ลเพิ่งเปิดตัวไป
เริ่มที่ไฮไลต์แรกของ นิว ไอแพด โปร (2018) หนีไม่พ้นเรื่องราคา มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ นิว ไอแพด โปร 11 (จอขนาด 11 นิ้ว) สนนราคาที่ 28,900 บาทขึ้นไป และนิว ไอแพด โปร 12.9 (จอขนาด 12.9 นิ้ว) สนนราคาที่ 35,900 บาทขึ้นไป
ขอบที่ลดลงไปนั้นยังมีพื้นที่เพียงพอเป็นแหล่งที่อยู่ของบรรดาเซ็นเซอร์ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายภาพด้านหน้า และเซ็นเซอร์เฟซ ไอดี ทำให้ผู้ใช้ปลดล็อกหน้าจอได้ด้วยเทคโนโลยีสแกนใบหน้าที่แม่นยำและปลอดภัยจากแอปเปิ้ล
นั่นหมายความว่า นิว ไอแพด โปร (2018) จะไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไป เช่นเดียวกันกับ ช่องเสียบหูฟังมินิแจ๊กขนาด 3.5 ม.ม. ซึ่งแอปเปิ้ลนำออกไปแล้ว เพื่อให้บรรดาสาวกแอปเปิ้ลได้เปิดประสบการณ์ชีวิตไร้สายกันอย่างแท้จริง
++++++
อีกหนึ่งจุดซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง คือ การนำช่องไลต์นิ่ง (Lightning port) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลที่อยู่มาตั้งแต่ ไอโฟน 5 ออกไป และทดแทนด้วยช่องยูเอสบี ไทป์-ซี (USB Type-C) แบบเดียวกับในผลิตภัณฑ์อย่างเครื่องแมคบุ๊ก (Macbook)
ทางแอปเปิ้ลระบุว่า จะส่งผลให้ นิว ไอแพด โปร (2018) สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องไอโฟน กล้องถ่ายภาพ และชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าพกพาอื่นๆ ได้ สร้างความมึนงงให้กับบรรดาผู้เชี่ยวชาญ เพราะ ไอโฟน เท็นเอส (iPhone XS) ที่แอปเปิ้ลวางจำหน่ายในปีนี้ล้วนมีช่องไลต์นิ่ง นั่นหมายความว่าผู้ใช้จะต้องใช้สายแปลงไลต์นิ่งเป็นยูเอสบี-ซี เท่านั้นจึงจะเชื่อมต่อไอโฟนเข้ากับนิว ไอแพด โปร รุ่นใหม่ดังกล่าวได้
ซึ่งแน่นอนว่าสายแปลงดังกล่าวนั้นต้องซื้อแยกต่างหาก อาจทำให้ผู้ใช้บางส่วนไม่ได้รับความสะดวก
ส่วนคุณภาพเสียงจากลำโพง 4 ตำแหน่งของเครื่องนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆ ที่น่าประทับใจที่สุดมาจากความอัศจรรย์ทางด้านวิศวกรรมที่ทางแอปเปิ้ลสามารถทำให้ไอแพดที่มีความบางมากในระดับนี้ให้เสียงที่มีคุณภาพสูงขนาดดังกล่าวออกมาได้ ทั้งหมดนี้ถือว่า นิว ไอแพด โปร (2018) เหมาะกับการใช้เพื่อความบันเทิงเช่นกัน
แอปเปิล อินไซเดอร์ เว็บไซต์วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ล ระบุว่า ผู้ใช้ที่ครอบครองเครื่องไอแพด โปร (2017) และยังรู้สึกว่าใช้งานได้ดีอยู่นั้นไม่ควรอัพเกรด เว้นเสียแต่ว่ามีงบประมาณเพียงพอ
หากเป็นนิว ไอแพด โปร (2018) 12.9 นั้นจะมีราคาแพงมากกว่า แต่เหมาะด้วยขอบที่ลดลงทำให้หน้าจอของนิว ไอแพด โปร (2018) 12.9 มีขนาดใหญ่กว่าของเมื่อปีที่แล้ว เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการหาแท็บเล็ตมาใช้แทนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก รวมทั้งบรรดาผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ระดับจริงจังด้วย
นิว ไอแพด โปร (2018) เริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้ เป็นต้นไปที่อเมริกา ผู้สนใจในไทยติดตามรายละเอียดอัพเดตได้ผ่านเว็บไซต์ https://www.apple.com/th/