ย้อนตร.ปิดคดีมอมยา

‘สืบระยอง’โชว์ฝีมือจับ

รูดทรัพย์หมอนวดสปา

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

‘สืบระยอง’โชว์ฝีมือจับ รูดทรัพย์หมอนวดสปา

พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 แถลง

‘สืบระยอง’โชว์ฝีมือจับ รูดทรัพย์หมอนวดสปาบ่ายวันที่ 8 ก.พ. ที่ลานหน้า สภ.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ระยอง และ พ.ต.อ. ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน ผกก.(สืบสวน) ภ.จว.ระยอง ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายจรณบูรณ์ กุลให้ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่จ.28/2563 ลงวันที่ 6 ก.พ. 2563 คนร้ายตัวแสบที่ก่อเหตุมอมยารูดทรัพย์เหยื่อสาวหลายราย โดยเน้นเหยื่อเฉพาะหมอนวดแผนไทยตามร้านนวด

ภายหลังสามารถจับกุมได้ที่บริเวณภายในถนนสุขุมวิท 54/2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีออส ทะเบียน กฉ3512 จันทบุรี ซึ่งผู้ถูกจับได้ชิงทรัพย์มาจาก นางมาลี (สงวนนามสกุล) ที่ร้านนวดในพื้นที่ สภ.ปากน้ำประแสร์ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลลา สีเทา ฐร8121 กทม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ หมวกปีกที่ใส่ก่อเหตุ จำนวน 1 ใบ กางเกงขายาวสีดำที่ใส่ก่อเหตุ 1 ตัว รองเท้าหนังสีดำ ที่ใส่ก่อเหตุ 1 คู่ และเครื่องแต่งกายที่ใช้ก่อเหตุคดีอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

เรื่องราวก่อนการติดตามจับกุมนายจรณบูรณ์ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายแต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว สีฟ้าอ่อน กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง สวมหมวกปีก สะพายกระเป๋าสีดำ เข้ามาร้านนวดแผนโบราณของนางมาลี ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง โดยคนร้ายแสดงท่าทีว่าเป็นชาวต่างชาติมาขอใช้บริการนวดแผนไทย








Advertisement

นายสุชิน ปานสุวรรณ จนมุมตร.

ขณะนวดได้ชวนนางมาลีดื่มสุราที่เตรียมมาด้วย เพียงครู่เดียวนางมาลีก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกครั้งพบว่ามีทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด 1,300 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน กฉ3612 จันทบุรี โทรศัพท์ 2 เครื่อง และชุดเครื่องเสียง 1 ชุด

ต่อมาวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็มีคนร้ายทำท่าทีคล้ายชาวต่างชาติ แต่งกายลักษณะเดียวกัน เข้ามานวดแผนไทยที่ร้านนวดแผนไทยโบราณไม่มีชื่อ บริเวณริมถนนสายล่าง เยื้องตลาดสดบ้านเพ ม.2 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ของ นางศิริรัตนา (สงวนนามสกุล) หลังจากนวดไปได้สักครู่ คนร้ายได้ชักชวนผู้เสียหายดื่มเครื่องดื่มสปาย พอผู้เสียหายดื่มประมาณ 2 ขวดก็หมดสติไป และมารู้สึกตัว อีกครั้ง โดยมีทรัพย์สินสูญหาย ประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสดประมาณ 3,000 บาท

แผนผังคดี

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คดี คือ นายจรณบูรณ์ กุลให้ อายุ 46 ปี ชาวจ.อุตรดิตถ์ มีประวัติเคยถูกจับในพื้นที่ สภ.บางนา กรุงเทพฯ เมื่อปี 2562 โดยใช้วิธีการแบบเดียวกับ 2 คดีดังกล่าวนี้

เมื่อตำรวจนำภาพนายจรณบูรณ์มาให้ 2 ผู้เสียหายชี้ ทั้งคู่ก็ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดระยองอนุมัติหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายดังกล่าว

ผู้เสียหายให้การ

จากการสอบปากคำนายจรณบูรณ์ สารภาพว่า เคยก่อเหตุไว้ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณวันที่ 29 ก.ย. 2562 นอกจากนี้ ยังเคยก่อเหตุแถวดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ย.62, ในพื้นที่ลาดกระบัง ต้นเดือน ธ.ค.62, ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีก 1 ครั้ง และพื้นที่ จ.ปทุมธานี อีก 1 ครั้ง กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว โดยนำเงินที่ได้ไปเล่นการพนัน

ขณะที่อีกคดีเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผกก.ป สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สนธิกำลังชุดสืบสวน ภจ.ว.อุทัยธานี พร้อม สภ.ห้วยคต อุทัยธานี ชุดสืบสวน ภจ.ว.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และชุดสืบสวน ภจ.ว.นครสวรรค์ จับกุมตัว นายสุชิน ปานสุวรรณ อายุ 28 ปี ชาว ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ 124/2562 โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลา กลางคืน

คดีนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหลายพื้นที่ ติดตามพฤติกรรมของนายสุชินมานาน กระทั่งพบตัวตรงตามตำหนิรูปพรรณตามหมายจับ เดินอยู่บริเวณริมถนนภายในซอยบ้านป่าไร่ หมู่ 5 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นายสุชินรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมายังกองปราบปราม

จากการตรวจสอบยังพบว่ามีหมายจับอีกรวม 4 หมาย โดยนายสุชินสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทุกหมาย

ขณะที่คดีในพื้นที่ อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2562 โดยนายแดง (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ผู้เสียหายที่โดนหลอกมอมยาแล้วรูดทรัพย์ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 15 วัน รู้จักกับนาสุชิน ทางแอพพลิเคชั่นหาคู่ สำหรับกลุ่มชายรักชาย โดยนายสุชิน หรือนายดิว เข้ามาทักแช็ตพูดคุยแล้วจีบ แต่ไม่ได้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นของตัวเอง กระทั่งคุยกันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ มีการวิดีโอคอลเห็นหน้ากันตนเกิดความไว้เนื้อ เชื่อใจ

แถลงปิดคดี

นายสุชินทำทีขอมาเที่ยวที่บ้านตนก็ยินดี เมื่อมาถึงนายสุชินทำตัวแปลกๆ สอบถามสิ่งรอบข้างหลายอย่าง เช่น หมาที่เลี้ยงไว้ดุหรือไม่ ทำไมที่บ้านไม่มีกล้องวงจรปิด และทรัพย์สินส่วนใหญ่จัดเก็บไว้อย่างไร หลังจากนั้นช่วงกลางคืน 21.00 น. นายสุชินทำทีขอเข้าห้องน้ำ หายไปประมาณ 15 นาที ก่อนกลับมาในห้องพร้อมกับยกแก้วน้ำเอามาให้ตนเองดื่ม อ้างว่าก่อนนอนควรดื่มน้ำ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าโดยปกติคนเราก็ต้องดื่มน้ำก่อนนอนอยู่แล้ว จึงดื่มไปประมาณ 2 อึก จากนั้นก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน

ตนตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนตี 5 นายสุชินหายตัวไปพร้อมขโมยสร้อยข้อมือทองหนัก 1 บาท, สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท, พระเลี่ยมทองหนัก 1 บาท, เงินสด 3,000 บาท,โทรศัพท์ และแก้วน้ำส่วนตัว รวมกว่า 97,000 บาทหนีไป จากนั้นตนตะเกียกตะกายไปหาแม่บ้านที่บ้านอีกหลังหนึ่ง เพื่อไปขอความช่วยเหลือ

ตอนนั้นตนอ่อนเพลียมาก ลิ้นแข็ง พูดสื่อสารไม่รู้เรื่อง ต้องการจะหลับอย่างเดียว รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลห้วยคต เพื่อนบอกว่าหลับไปถึง 3-4 วัน จึงฟื้นขึ้นมา หลังจากนั้นตนเองก็นอนที่โรงพยาบาลห้วยคตจนกว่าอาการจะกลับมาเป็นปกติ และได้นำความแจ้งไว้ที่ สภ.ห้วยคต จนสามารถจับกุมคนร้ายได้

คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ยิ่งเพิ่งเคยพบเจอกันควรดูไว้เป็นตัวอย่าง

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี, พชร พัสกุล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน