ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้ง

ตื้บตาวัย71ชิงเงิน5พัน

วงจรปิดมัดนาทีลงมือ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้งตื้บตาวัย71 : พลันที่คลิปเหตุการณ์ชายและกะเทยคู่หนึ่งเดินอยู่บนฟุตปาธ ริมถนนนครสวรรค์ หน้าร้านขายหนังสือผ่านฟ้าบุ๊คเซ็นเตอร์ แขวงวัดโสมนัสฯ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ก่อนที่จู่ๆ ชายเสื้อดำได้วิ่งปรี่เข้าไปเตะชายชราที่นอนอยู่กับพื้นอย่างจัง 2 ที ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจากไป กระทั่งชายชราได้สติลุกขึ้นจะเดินหนี ก่อนที่กะเทยใส่เสื้อฟ้าที่ใส่ผ้ากันเปื้อนสีเหลืองได้เดินเข้าไปแย่งเอาอะไรบางอย่างจากชายชรา ก่อนที่ชายเสื้อดำจะตามเข้ามาช่วย และได้อะไรบางอย่างและเดินหนีหาย คาดว่าน่าจะเป็นกระเป๋าเงินของชายชราที่โดนทั้งคู่ขโมยไป ถูกเผยแพร่ออกไป กระแสความไม่พอใจก็กระหึ่มโลกโซเชี่ยล

ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้งตื้บตาวัย71

นาทีลงมือ

พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.นางเลิ้ง เผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุชิงทรัพย์ เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี 2 คนร้ายเข้าไปทำร้ายนายปรีชา แซ่กี่ อายุ 71 ปี ที่นอนอยู่กับพื้นหน้าร้านขายหนังสือ และชิงเอากระเป๋าสตางค์ของตาปรีชาไป

ขณะที่ตาปรีชาที่โดนทำร้ายร่างกายกล่าวว่า วันนั้นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ จู่ๆ ก็ได้มีผู้ชาย 2 คน เดินข้ามมาจากฝั่งตรงข้ามแล้วเข้ามาทำร้าย ตอนนั้นไม่ได้ตั้งตัวเลย โดยเข้ามาเตะแล้วก็ชิงเอากระเป๋าไป ในนั้นมีเงินจำนวน 5,000 บาทและบัตรสวัสดิการคนแก่ พร้อมบัตรสำคัญอีกหลายอย่าง ซึ่งได้ไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้งแล้ว และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวให้ได้เร็วๆ

หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจสอบจากพฤติกรรมแล้วเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จึงระดมไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่าเป็นใคร ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้

ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้งตื้บตาวัย71

สอบ 2 คนร้าย

กระทั่งเมื่อวันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทางฝ่ายสืบสวนของ สน.นางเลิ้ง ได้ติดตามจับกุมตัวนายสุรชัย หรือหนึ่ง เชื้อเชียง อายุ 40 ปี และนายสมพงษ์ หรือบี พิมพ์สะอาด อายุ 41 ปี มีอาชีพเก็บของเก่า ได้ที่บริเวณโรงกรองน้ำใกล้แยกตึกชัย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 เม.ย.

เบื้องต้นทั้ง 2 คนให้การว่า มีอาชีพเก็บของเก่า และที่ก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปซ่อมรถซาเล้งเก็บของเก่าที่เสีย เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนการดูแลนายปรีชาผู้เสียหาย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือพม. จะเข้าไปช่วยดูแล

ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้งตื้บตาวัย71

ชี้ที่เกิดเหตุ

ต่อมาตำรวจ สน.นางเลิ้งคุมตัวนายสมพงษ์และนายสุรชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังทำแผน ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ก้มลงกราบขอโทษตาปรีชา โดยบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งทำเป็นครั้งแรก เพราะแค่อยากได้เงินไปซ่อมรถ จากนั้นนำผู้ต้องหาไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลา กลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

ด้านตาปรีชากล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วช่างมัน ถือเป็นกรรมเก่าของตัวเอง หรืออาจจะเพราะชาติก่อนตนเองอาจจะเคยทำร้ายเขาไว้ โดยยอมรับว่ายังรู้สึกกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำอีก แต่ชีวิตไม่มีทางเลือกมากนักต้องอยู่ให้ได้ อยากมีห้องเช่าเล็กๆ ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่อยากไปอยู่ที่หน่วยงานรัฐเพราะอยากอยู่แบบอิสระ ส่วนเงินที่คนร้ายชิงเอาไปนั้นได้เก็บสะสมวันละนิดละหน่อยมานานหลายปีแล้วกว่าจะได้เงินเยอะขนาดนั้น

ย้อนคดีจับ2คู่หูซาเล้งตื้บตาวัย71

ตาปรีชา

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกรมกิจการผู้สูงอายุ พม. ได้เข้ามาพูดคุยกับตาปรีชา เพื่อรับไปดูแลคุ้มครองตามสิทธิพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และประสานดำเนินการเอกสารต่างๆ โดยเบื้องต้นจะนำตาปรีชาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อดูอาการบาดเจ็บ รวมถึงจะประสานติดตามหาลูกสาว ตามสิทธิคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดยตาปรีชาแจ้งว่ามีลูกสาวอยู่ที่โคราช ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ทั้งนี้ เมื่อรับเข้ามาดูแลที่บ้านมิตรไมตรีแล้วก็จะให้กรมกิจการผู้สูงอายุเข้ามาดูแลรับช่วงต่อ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตาปรีชาอาศัยอยู่บริเวณนี้มากว่า 10 ปี โดยตำรวจ สน.นางเลิ้งที่อยู่ใกล้เคียงได้พยายามติดต่อหน่วยงานให้เข้ามาดูแล แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธมาตลอด กระทั่งถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ เลยยินยอมให้เจ้าหน้าที่รับไปเพื่อช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย

สมศักดิ์ ชฎารัตน์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน