คอลัมน์ สดจากสนามข่าว ย้อนคดีสยอง‘เมืองน้ำดำ

ลูกคลั่งค้อนทุบหัวฆ่าพ่อ ฉุนไม่ให้ข้าวไปขายซื้อยา

ย้อนคดีสยอง‘เมืองน้ำดำ’ “น้องชายมีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวพาไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีอาการจิตหลอนอาละวาด มันไม่มีใครเข้าใกล้ได้” นายวรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ให้การกับตำรวจถึงพฤติกรรมของน้องชาย ภายหลังเกิดเหตุสยองเมืองน้ำดำ

นายอัครเดช จนมุม

ย้อนไปเมื่อค่ำ วันที่ 24 มิ.ย. พล.ต.ต. สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง ว่า มีเหตุฆ่ากันตายบริเวณหน้ายุ้งฉางข้าว บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่ ติดกับถนนทางออกบ้านหนองขอนแก่น-หนองอีบุตร ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง

ศพนายสวัสดิ์

ที่เกิดเหตุพบศพ นายสวัสดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นดินหน้ายุ้งฉางข้าว สภาพศพสวมเสื้อสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของแข็งตีที่บริเวณศีรษะ เป็นแผลและศีรษะยุบ ใกล้กันพบค้อนตอกตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่และท่อนไม้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สอบปากคำ

 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายอัครเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในบ้านพักหลังหนึ่ง บ้านหนองอีบุตร ม.1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงนำตัวมาสอบสวน

เล่านาทีลงมือ

สอบสวนเบื้องต้นนายอัครเดชให้การรับว่าก่อเหตุจริง แม้นยังพูดจาวกวนเพราะอยู่ในอาการหลอน แต่ก็พอจับใจความได้ว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิ.ย. นายอัครเดช ซึ่งสติไม่ดีเนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอนและมีประวัติในการรักษาทางประสาท ได้ขับรถจักรยานยนต์มาหาพ่อ เพื่อจะมาเอาข้าวเปลือกจากยุ้งฉางไปขายเอาไปซื้อยาเสพติดมาเสพ

แต่นายสวัสดิ์ผู้เป็นบิดาไม่ยอมให้กุญแจเปิดยุ้งฉางจึงเกิดมีปากเสียงกัน นายอัครเดชอาศัยจังหวะที่นายสวัสดิ์เผลอ ใช้ค้อนทุบบริเวณศีรษะของผู้เป็นพ่อหลายครั้งจนล้มลงแน่นิ่งเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะนำกุญแจไปเปิดและนำข้าวเปลือกไปขาย 2 รอบ

ต่อมาหลานสาวผู้เสียชีวิตมาพบศพจึงรีบแจ้งญาติๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถติดตามตัวได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าบุพการี พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พล.ต.ต.สมนึก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายอัครเดชไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากการขับรถจักรยานยนต์มายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเข้าไปขอกุญแจกับพ่อแล้วมีปากเสียงกัน และใช้ค้อนทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิตและนำเอาข้าวเปลือกไปขายเพื่อซื้อยาเสพติด

 

ส่งชันสูตรที่ร.พ.

พล.ต.ต.สมนึกกล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่าเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท เนื่องจากเสพยาเสพติดมานาน แต่รักษาออกมาก็กลับมา เสพและมีอาการหลอนอีก บ่อยครั้งพูดจา ไม่รู้เรื่อง กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเกิดอาการหลอนและพ่อขัดใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต

“อยากฝากเตือนไปยังประชาชน หากมีคนในครอบครัวมีอาการและพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกัน แก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อ ไม่ให้มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นอีก” ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์กล่าว

ขณะที่นายวรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า น้องชายมีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวพาไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีอาการจิตหลอนอาละวาด บางครั้งก็พูดคนเดียว

แต่ถ้าหนักๆ ถึงขั้นถือมีดกรีดตามผนัง ตามกำแพงไม่มีใครเข้าใกล้ได้ ส่วนยุ้งฉางอันนี้ก็เคยมางัดเอาข้าวไปขายซื้อยาหลายครั้งแล้ว จนล่าสุดมาก่อเหตุฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าตัวเองในครั้งนี้

กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสยอง ที่มีต้นเหตุจากยาเสพติด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน