คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ตามตร.ปิดคดีฆ่าโหด จ่อยิงหนุ่มดับคาจยย. ที่แท้เพื่อนรักหักเหลี่ยม
ตามตร.ปิดคดีฆ่าโหด – แม้จะเลิกรากันแล้ว แต่ก็เพียงแค่ 3 เดือน น่าจะมีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่บ้าง แต่ทั้งท่าทางและน้ำเสียงของ นางจันทรัตน์ (สงวนนามสกุล) ที่มาดูศพ นายสุชาติ อโนทัย อายุ 38 ปี อดีตสามี มันช่างไร้เยื่อใยจนเป็นที่ชวนสงสัย
สุดท้ายจึงกลายเป็นที่มาของการคลี่คลายคดีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
พฐ.เก็บหลักฐาน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมือง จ.สงขลา รับแจ้งพบศพชายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณบ่อดินร้าง พื้นที่หมู่ 6 บ้านทำนบ ต.ทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 และเจ้าหน้าที่ร่วมใจกู้ภัยเมืองสงขลา ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างนายสุชาติ อโนทัย อายุ 38 ปี เสียชีวิตในสภาพที่คร่อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ที่ 1 กฐ 9762 สงขลา ที่ล้มอยู่กลางถนน พบถูกยิงเข้าไหล่ขวา 3 นัด และที่นัดหลังอีก 2 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ ไม่พบปลอกกระสุนหรือหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบในตัวผู้ตายพบว่า ที่มือขวายังกำยาไอซ์อยู่ในถุงหนักประมาณ 1 กรัม ติดอยู่กับแฮนด์รถจักรยานยนต์ และมีกระเป๋าอยู่ข้างศพ ภายในมีเงินสด 300 บาท กล้องถ่ายรูป เพาเวอร์แบงก์และสมุดจดโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไปตรวจสอบ
ห่างออกไปจากจุดที่พบศพราว 100 เมตร พบกองเลือดและไหลหยดเป็นทางมายังจุดที่นอนเสียชีวิตอยู่ คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายลงมือยิงและผู้ตายพยายามขับรถหนี และถูกไล่ยิงตามหลังจนมาล้มลงเสียชีวิต
สภาพที่เกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นไปในเรื่องของยาเสพติด โดยผู้ตายน่าจะนัดหมายกับนักค้ายาเสพติดด้วยกัน เพื่อมาซื้อขายยาเสพติดหรือไม่ก็มาเคลียร์ปัญหาเรื่องยาเสพติด แต่ตกลงกันไม่ได้จึงถูกอีกฝ่ายยิงเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไป
ตำรวจสอบถามนางจันทรัตน์ (สงวนนามสกุล) ภรรยา ให้การว่าตนแยกกันอยู่กับสามีมากว่า 3 เดือนแล้ว และไม่ได้เจอกันอีก กระทั่งมีกำนันมาบอกว่าพบถูกยิงเสียชีวิต โดยสามีเข้าไปพัวพันกับเรื่องยาเสพติดจริง และปกติสามีก็เป็นคนอารมณ์ร้อน หากพูดไม่ถูกใจก็จะขึ้นเสียงและทำร้ายร่างกาย แต่สาเหตุที่ถูกยิงไม่ทราบว่าไปมีเรื่องกับใคร
คดีนี้ตอนแรกตำรวจก็ให้น้ำหนักไปในเรื่องขัดแย้งยาเสพติด แต่เมื่อเห็นลักษณะอาการของนางจันทรัตน์ที่ไม่มีความเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะคำให้การที่เหมือนจะปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้ ตำรวจจึงเค้นสอบจนทราบเรื่องราวทั้งหมด
จับหนุ่มนกต่อ
ในที่สุดความจริงก็กระจ่าง เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่สภ.เมืองสงขลา พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู รองผู้บัญชาการตำรวจกภูธรภาค 9 แถลงข่าวปิดคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ 2 คน และพบว่าสาเหตุมาจากทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องชู้สาวรวมกัน ซึ่งผู้ตายและคนร้ายก็เป็นเพื่อนรักกันด้วย
พล.ต.ต.โชติกล่าวว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน 4 หน่วย มีชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันสืบสวนหาเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้ง 2 คน ภายในเวลา 2 วัน
โดยคนร้ายคือ นายอุดร ไชยทองเพชร อายุ 30 ปี หรือดร มือปืน และนายธีระพงษ์ จันทอง อายุ 31 ปี หรืออาร์ ซึ่งเป็นนกต่อที่ลวงผู้ตายออกมายิง พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .357 ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งใช้กระสุนขนาด .38 และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อกับผู้ตาย และจากการสอบสวนทั้งสองคนก็ยอมรับสารภาพ
2 คนร้าย
พล.ต.ต.โชติเผยชนวนสังหารว่ามาจากทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องชู้สาว โดยทั้งนายสุชาติและคนร้ายทั้ง 2 คนอยู่ในกลุ่มค้ายาและเสพยาก๊วนเดียวกัน และสนิทสนมเป็นเพื่อนรักกัน แต่ชนวนเหตุว่า นายอุดรแอบไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาของนายสุชาติ ทั้งคู่จึงมีปัญหากัน
เบื้องหลังคดีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งเมียเพื่อนจนถึงขั้นฆ่ากันตาย จากการสอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ นายสุชาติถูกจับกุมคดียาเสพติดมาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 63 ถูกส่งไปบำยัดยาเสพติด และฝากฝังเมียให้นายอุดร ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่ร่วมเสพยาด้วยกันช่วยดูแล
ปรากฏว่าจากความใกล้ชิดและสนิทสนมกัน ทำให้นายอุดรแอบได้เสียกับภรรยานายสุชาติ เมื่อนายสุชาติออกจากสถานบำบัดก็ทราบเรื่อง และทะเลาะกับภรรยาจนต้องแยกทางกันมา 3 เดือน แต่นายสุชาติก็พยายามโทรศัพท์ไปหาเรื่อง ครั้งสุดท้ายโทรศัพท์ไปหาภรรยาและพูดขู่ว่าจะยิงนายอุดรให้ตาย ซึ่งขณะนั้นนายอุดรนั่งอยู่ใกล้ๆ และได้ยิน จึงเป็นสาเหตุให้ชิงลงมือฆ่านายสุชาติก่อน โดยให้นายธีระพงษ์โทร.ไปลวงออกมาให้ยิง ส่วนภรรยาเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีส่วนร่วมกับการฆ่า
พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู รองผบช.ภ.9 แถลง
“ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้ง 2 คน 3 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร”
ขณะที่นายอุดรปฏิเสธว่าไม่ได้ไปเป็นชู้ กับเมียนายสุชาติ ซึ่งตนก็คอยช่วยเหลือลูกเมียของนายสุชาติมาตลอดในช่วงกว่า 1 เดือน ที่ถูกส่งไปบำบัด เพราะนายสุชาติได้ฝากให้ช่วยดูแล แต่พอออกมาก็มาใส่ร้ายตนว่าเป็นชู้กับเมีย และโยนความผิดเรื่องค้ายาเสพติดให้ตนทั้งหมดและยังขู่ฆ่า ซึ่งตนแค้นมากจึงลงมือวางแผนฆ่าก่อน
รถ ปืน เมีย โบราณท่านห้ามยืม คำเตือนที่ยังคงขลังมาตลอดทุกยุคทุกสมัย
