มีความคึกคักอย่างแน่นอนหากมองผ่านปฏิบัติการ “ดูด” นายสกลธี ภัททิยกุล ประสานเข้ากับ นายสนธยา คุณปลื้ม นายอิทธิพล คุณปลื้ม

ถามว่าสะท้อนไปถึงพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ถ้ามองว่ากระบวนการ “ดูด” เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ “พรรคคสช.” สร้างความมั่นใจในเรื่องการสืบทอดอำนาจ

แต่ถามว่า “นักการเมือง” เหล่านี้เป็นใคร

นายสกลธี ภัททิยกุล ก็เป็นอดีตส.ส.ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป่านกหวีดกับกปปส. ขณะที่ 2 พี่น้องตระกูลคุณปลื้มก็สังกัดอยู่กับพรรคพลังชลอย่างเด่นชัด

แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย

ยิ่งเมื่อฟังจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นระดับเลขาธิการพรรค ไม่ว่าจะเป็นระดับในพื้นที่ สถานการณ์นับแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมา

การยืนยันสมาชิกภาพของอดีตส.ส.เป็นไปอย่างคึกคัก

บรรดาอดีตส.ส.จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ไม่ว่าทางภาคเหนือ ไม่ว่าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมัครเป็นสมาชิกกันครบถ้วน

นี่คือฐานเสียงอันยิ่งใหญ่และสำคัญของพรรคเพื่อไทย

ในเมื่อพรรคเพื่อไทยยึดแนวทางในการกวาดเก็บคะแนนของส.ส.ในระบบเขตอย่างเหนียวแน่นเพื่อส่งผลสะเทือนไปยังระบบบัญชีรายชื่อ

ถือว่าพรรคเพื่อไทยไม่กระทบกระเทือน

ขณะเดียวกัน บรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีชื่อแวดล้อมอยู่โดยรอบและสัมพันธ์กับ “พรรคคสช.” ก็มิได้อยู่นอกเหนือการคาดหมาย

ทุกอย่างเป็นเหมือนหลังรัฐประหาร 2549

นั่นก็คือ ภาพของนักการเมืองที่แตกแถวออกจากพรรคไทยรักไทยเพื่อไปจัดตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคชาติพัฒนา

จะมีหน้าใหม่ก็เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น

ขณะที่กล่าวสำหรับคนของพรรคพลังประชาชนที่ตกทอดมายังพรรคเพื่อไทยและผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ยังเหนียวแน่นและมั่นคง

เท่ากับว่า “พลังดูด” ยังมิอาจทำอะไรพรรคเพื่อไทยได้

ต้องยอมรับว่า กระบวนการทางด้านรัฐธรรมนูญ กระบวนการทางด้านคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 ต้องการทำให้เกิดภาวะโยกคลอนรวนเรต่อพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นด้านหลัก

แต่กลับทำให้กระทบพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า

เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกพรรคกว่า 2.8 ล้านคนยากที่จะทำได้ภายใน 1 เดือนขณะที่พรรคเพื่อไทยมีเพียงไม่กี่แสนคนเท่านั้น

พรรคเพื่อไทยจึงยังรักษา “อาการ” และเอกภาพภายในได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน