ทั้งๆ ที่ นายเสนาะ เทียนทอง ก็ยืนยันการที่ นายไพศาล พืชมงคล มาหาที่บ้านในวันสงกรานต์มิได้มีการพูดถึงเรื่องการดูดอะไรทั้งสิ้น
แล้วทำไม นายไพศาล พืชมงคล จึงเอาไปเขียนเป็นตุเป็นตะ
ถึงขั้น “น่าจับตาว่าในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่สระแก้ว นายเสนาะจะจับมือพลเอกประยุทธ์ชูเป็นนายกฯ ต่อหรือไม่”
พร้อมกับหยอดด้วยว่า “แผ่นดินแห้งแล้งมานาน สักวันสายฝนจะฟื้นคืนความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น”
เพียงเพราะก่อนหน้านี้ นายเสนาะ เทียนทอง เคยชูมือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อย่างนั้นหรือ
น่าจะมีอะไรมากยิ่งกว่านั้น
อะไรที่ว่านั้นจะมองชั้นเดียวอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้อย่างเด็ดขาด อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายไพศาล พืชมงคล เป็นใครและมีรสนิยมอย่างไร
เชื่อว่าเขาอ่าน “สามก๊ก” ตั้งแต่ยังเรียนธรรมศาสตร์
เพราะหากไม่อ่านอย่างเจนจบ ทะลุปรุโปร่ง คงไม่สามารถนำมาร้อยเรียงเขียนได้อย่างพิสดารในภายหลัง
และกรณีนี้มิได้เป็นการดึง นายเสนาะ เทียนทอง อย่างที่เข้าใจกัน
หากแต่น่าจะดำเนินไปตามกลยุทธ์ของขงเบ้งที่สั่งการให้เขียนใบปลิวโจมตีสุมาอี้กระทั่งกระเด็นกระดอนออกจากเมืองเสเหลียง
อย่างน้อยก็เป็นการเจาะลงไปใน “เพื่อไทย”
การโพสต์ข้อความของ นายไพศาล พืชมงคล อาจกระทำในนาม “ส่วนตัว” แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายไพศาล พืชมงคล มีตำแหน่งอะไรอยู่ในครม.
เขาเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้าน “ความมั่นคง”
ประกอบกับบรรดาฝ่ายความมั่นคงที่ขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโตหลังปี 2557 มีพื้นฐานมาจากการรับราชการอย่างที่เรียกกันว่า “บูรพาพยัคฆ์”
จึงโยงสายยาวเข้ากับ นายเสนาะ เทียนทอง ได้อย่างง่ายดาย
และบังเอิญการปล่อยข่าวเช่นนี้มีผลสะเทือนสูงจึงทั้ง นายเสนาะ เทียนทอง และ นายสรวงศ์ เทียนทอง ลูกชาย ต้องรีบออกมาปฏิเสธ
กระนั้น จุดชี้ขาดยังอยู่ที่วันที่ 18 พฤษภาคม
สถานการณ์เปิดด่านถาวรที่สระแก้วติดกับพระตะบองในวันที่ 18 พฤษภาคม ย่อมเป็น “คำตอบ” ของปฏิบัติการด้านการข่าวนี้ครบถ้วน
จะมีประชาชนกว่า 50,000 จริงหรือไม่
จะมีภาพ นายเสนาะ เทียนทอง ยืนเรียงเคียงข้างและชูมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่
อีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะกระจ่างสว่างใส