การเมือง ยืดเยื้อ การเมือง “พฤษภาคม” จนกว่า “เลือกตั้ง”

วิเคราะห์การเมือง

สถานการณ์อันเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 จะยังไม่จางหายไปจากความทรงจำแม้จะมีความพยายามในการสกัด ขัดขวาง อย่างไรก็ตาม

อย่างน้อยภาพเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ก็เป็นสัญญาณเตือน

คสช.สามารถกั้นบริเวณสำคัญของ “แยกราชประสงค์” ได้ คสช.สามารถทำให้ร้านอาหารอันเป็นเป้าหมายนัดพบมีอันต้องปิดลงกะทันหันได้

แต่ห้ามไม่ให้คนไปยัง “แยกราชประสงค์” ได้หรือไม่

ในห้วงหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อาจมีไม่มากนัก แต่พอเข้าปี 2559 และปี 2560 คนที่เคยร่วมอยู่ในเหตุการณ์ส่วนหนึ่งก็ยังไป

จะมาก จะน้อย ก็ขึ้นกับ “สถานการณ์”

บรรดาคนที่มีส่วนอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะในด้านเป็นฝ่ายปราบปราม ไม่ว่าจะในด้านเป็นฝ่ายถูกปราบถูกกระทำ ต่างมิอาจจะปัดปฏิเสธได้

เว้นแต่จะตายไปแล้วเหมือนกับเมื่อเดือนตุลาคม 2516

กล่าวสำหรับคนที่เคยมีส่วนอยู่ในเหตุการณ์อย่างเช่นเมื่อเดือนตุลาคม 2519 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 เมื่อเดือนเมษายน 2552 และโดยเฉพาะเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

ทุกอย่างยากยิ่งที่จะเลือนหายไปอย่างง่ายดาย

ยิ่งสังคมประเทศไทยไม่เคยมีการไต่สวนและตรวจสอบแต่ละสถานการณ์เพื่อหาบทเรียน ยิ่งทำให้บาดแผลยากที่จะสมานลงได้

ความเจ็บช้ำก็ยังดำรงคงอยู่

กล่าวเฉพาะสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ตัวละครทุกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่กันครบถ้วน ทั้งในด้านที่ครองอำนาจ ทั้งในด้านที่ไม่มีอำนาจ

ไม่ว่าจะอยู่ในคสช. ไม่ว่าจะอยู่นอกคสช.

การเมืองในห้วง 10 ปีก่อนและ 10 ปีหลังจึงยากที่จะปฏิเสธผลสะเทือนและความพัวพันต่อสถานการณ์เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ได้

ไล่เรียงไปตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

สานต่อมายังก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 และต่อเนื่องมายังครบ 4 ปีในเดือนพฤษภาคม 2561

เห็นหน้าเห็นตา ได้ยินเสียง ได้เห็นภาพ

ถามว่าเมื่อผ่านการเลือกตั้ง เรื่องราวอันเกี่ยวกับสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 จะเป็นอย่างไร

ตอบได้เลยว่า ยังไม่จบ

ก่อนการเลือกตั้งเรื่องจากเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 รวมถึงรายละเอียดอันเกี่ยวกับรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ก็จะยังอยู่

อยู่ต่อไปแม้จะผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว