ภาพการนั่งหลับของบรรดาสมาชิก “สนช.” ที่ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางทั้งในสื่อออนไลน์และในสื่อหนังสือพิมพ์ขณะนี้มีผลสะเทือน
เหมือนกับจะเป็นผลสะเทือนต่อ “สนช.”
สัมผัสได้จากท่าทีของสนช.อย่าง นายสมชาย แสวงการ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการประสานงานสมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือที่เรียกว่า “วิปสนช.”
น่าแปลกต่อ “ท่าที” เป็นอย่างยิ่ง
แทนที่จะมองอย่างเข้าใจต่อปัญหาตามหลักแห่งอริยสัจ 4 นั่นคือมองเห็นตัวทุกข์ว่ามาจากอะไร นายสมชาย แสวงการ กลับตำหนิสื่อ
ทั้งๆ ที่ในอดีต นายสมชาย แสวงการ ก็เคยเป็นสื่อ
ความเดือดร้อนอันสำแดงผ่าน นายสมชาย แสวงการ ซึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญใน “วิปสนช.” ยืนยันให้เห็นว่าผลสะเทือนไม่น่าจะจำกัดกรอบเฉพาะแต่สนช.หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
หากยังเท่ากับเป็นการฟ้องไปยังรากฐานที่มา
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า สภาพที่ปรากฏเป็นการนั่งหลับระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562
เป็นการแถลงไม่ธรรมดา หากแต่แถลงอย่างชนิดยาวเหยียด
ยาวเหยียดมากยิ่งกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งอ่านผ่านรายการทุกคืนวันศุกร์ นั่นก็คือยาวเหยียดกว่า 2 ชั่วโมง
การนั่งหลับจึงเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ธรรมดา
ความไม่ธรรมดาในที่นี้อยู่ตรงที่ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าบรรดาสมาชิกสนช.ล้วนเรียกตามสำนวนของรัฐสภาว่า “ผู้ทรงเกียรติ”
เมื่อเป็น “ผู้ทรงเกียรติ” ก็ต้องได้รับ “เกียรติ”
การนั่งหลับในขณะที่ฝ่ายหนึ่งเจื้อยแจ้วอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมองตามมารยาทสากลหรือมารยาทไทยย่อมเท่ากับไม่ได้ให้เกียรติต่อกัน
ตรงนี้แหละที่ปวดแสบอย่างยิ่งยวด
เพราะว่าบรรดา สนช.ทั้งหลายล้วนได้รับการแต่งตั้งมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคสช. การไม่ยอมฟัง จึงถือว่าแข็งขืน
ไม่ยอมฟังก็ไม่ดีอยู่แล้ว แต่นี่ยัง “หลับ”
การนั่งหลับระหว่างประชุมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเข้าใจได้ในสายตาของ นายสมชาย แสวงการ แต่การที่มีภาพปรากฏตามสื่อต่างๆ นี่แหละที่ไม่ธรรมดา
เพราะทำให้ “ภาพ” ได้กลายเป็นของ “สาธารณะ”
เพราะพลันที่สื่อตัดสินใจนำออกเผยแพร่ ไม่ว่าสื่อโทรทัศน์ ไม่ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ เท่ากับไม่ให้เกียรติแก่สมาชิกสนช. “ผู้ทรงเกียรติ”
และไม่ไว้หน้า “ผู้พูด” ซึ่งเป็น “นายกรัฐมนตรี”