ลงได้คนระดับ นายจำลอง ครุฑขุนทด ระดับ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และโดยเฉพาะระดับ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ไปอยู่ในมือ

มีหรือที่ “กลุ่มสามมิตร” จะไม่มี “ฤทธิ์”

ไม่เพียงแต่จะมีการเดินสายพบกับบรรดาอดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเพื่อเปิด “พลังดูด” ด้วยความเข้มข้น หากแม้กระทั่งเครือข่าย “นปช.” ก็ไม่เว้น

เห็นชัดที่เปิด “รายชื่อ” ออกมา ก็ต้องรอดู

อาจเริ่มต้นจากบรรดา “นปช.” ที่ถูกลากเข้าไปติดร่างแหอยู่กับ “ขอนแก่นโมเดล” แต่หากมองจากมุมของคนซึ่งติดอยู่ในคดีความก็ต้องเปิดหัวใจ

อดีตส.ส.เป็นเช่นนี้ นปช.ก็เป็นเช่นนี้

เมื่อคนอย่าง นายจำลอง ครุฑขุนทด ไปนั่งเป็นพระอันดับอยู่กับ นายภิรมย์ พลวิเศษ เมื่อ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ควงแขนภรรยาเดินเคียงข้าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

มีหรือที่เครือข่าย “นปช.” จะเหลืออยู่

ไม่ว่าในห้วงแห่งการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าในห้วงแห่งการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยล้วนเป็นกำลังสำคัญ

บรรดา “คนเสื้อแดง” ที่ทยอยจากแต่ละจังหวัดทางภาคอีสาน คอยเติมคนให้คึกคักหนักแน่นไม่ว่าจะเป็นบนถนนราชดำเนิน หรือที่แยกราชประสงค์

มีหรือที่บรรดา ส.ส.จะไม่ได้รับรู้ร่วมไปด้วย

การมีข่าวว่า นายสุพล ฟองงาม พร้อมจะไปรอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ “ครม.สัญจร” ย้อนกลับไปยังอุบลราชธานี

จึงมิได้เป็นข่าวใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ

ยิ่งการเดินสายไปพบกับนปช.ในแต่ละจังหวัดของภาคอีสานของ นายภิรมย์ พลวิเศษ จะยากลำบากอะไร

ในเมื่อได้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ มาชี้ทาง

นี่คือสภาพที่ไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นจะต้องตั้งรับและคอยแก้ไข หากแม้กระทั่งแกนนำของนปช.ก็จะต้องตระเตรียมในทางความคิด

เกิดขึ้นกับอดีตส.ส.ฉันใด ก็ย่อมเกิดขึ้นกับนปช.ฉันนั้น

ไม่ว่าปฏิบัติการ “พลังดูด” ต่ออดีตรัฐมนตรีอย่าง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ไม่ว่าปฏิบัติการ “พลังดูด” ต่อคนที่เคยยืนอยู่หัวแถวนปช.อย่าง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

ดำเนินไปตามอนุศาสน์ซุนวูที่ว่า “การศึกมิหน่ายเล่ห์”

นี่คือยุทธการ “ยืมหอกสนองคืน” อันเป็นพัฒนาการนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อเคลียร์พื้นที่และสร้างภูมิทัศน์ทางการเมือง

ทำให้ “เพื่อไทย” อ่อนแอ ปวกเปียกก่อน “เลือกตั้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน