วิเคราะห์การเมือง
การนำเสนอหัวข้ออภิปรายเรื่อง “บทบาทปัญญาชนไทย ก่อนสมัย 200” ของ “สโมสรศิลปวัฒนธรรม” ในเวลาบ่ายโมงครึ่งของวันที่ 22 กันยายน ณ ห้องโถงมติชนอคาเดมี
สำคัญและทรงความหมาย
สำคัญไม่เพียงเพราะเป็นการรื้อฟื้นบทบาทของปัญญาชนอย่างเช่น ม.จ.สกลวรรณากร วรวรรณ หรือ ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน เท่านั้น
หากแต่ยังมีปัญญาชนอย่าง อิศรา อมันตกุล และ เสนีย์ เสาวพงศ์
นั่นก็เท่ากับเอาปัญญาชนซึ่งมีรากฐานการเติบใหญ่แตกต่างกันอย่างชนิดคนละรากฐานมานำเสนอผ่านการศึกษา สังเกตและเฝ้ามองโดยปัญญาชนรุ่นหลัง
1 ก็คือ ศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
และ 1 ก็คือ ศาสตราจารย์ ดร.เกษียร เตชะพีระ โดยมี ศิโรตม์ คล้ายไพบูลย์ ทำหน้าที่ดำเนินการการเสวนา
ถามว่า “ทรงความหมาย” อย่างไร
ทรงความหมาย 1 เพราะว่าบทบาทของปัญญาชนยุค 2500 มิได้จำกัดความสำคัญอยู่เฉพาะแต่เพียงยุคสมัยของตนเท่านั้น
หากแต่ยังมี “ผลสะเทือน” กว้างไกลเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างชัดๆ ก็คือ นวนิยาย “เมืองนิมิตร” จากปลายปากกา ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่า แนวคิดในเรื่อง “สังคมนิยม” ได้เริ่มก่อรูปแม้กระทั่งภายในสมาชิกแห่งกบฏบวรเดช
การลุกขึ้นสู้ของ “กบฏบวรเดช” จึงมีการเสนอ “ความคิด” ใหม่
ไม่เพียงแต่เปรียบเทียบกับความน่าสงสัยอันปรากฏใน “เค้าโครงเศรษฐกิจ” หากแต่ยังเปรียบเทียบและนำไปสู่ความสงสัยในการก่อรูปขึ้นของเผด็จการทหารที่นำโดย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ตั้งแต่ยุคสงครามมหาเอเชียบูรพา กระทั่งยุคสงครามเกาหลี
ทรงความหมาย 1 ชี้ว่า “สังคมนิยม” มิได้มีสกุลเดียว ทิศทางเดียว
สังคมนิยมในแบบของ ม.จ.สกลวรรณากร วรวรรณ คือสังคมนิยมในแบบ “เฟเบียน” อันคิดค้นขึ้นโดยปัญญาชนบนเกาะอังกฤษ
สังคมนิยมของ ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน มีกลิ่นอายแห่งชนชั้นสูงเด่นชัด
นี่ย่อมไม่เหมือนกับสังคมนิยมในแบบของ นายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร และยิ่งไม่เหมือนกับสังคมนิยมในแบบของ ชาญ กรัสนัยบุระ
แม้ว่ายุค 1 จะเคยมีคำขวัญ “สังคมนิยมทุกชนิดคือคอมมิวนิสต์” ก็ตาม
การรื้อฟื้น “บทบาทปัญญาชนไทย ก่อนสมัย 2500” จึงไม่เพียงฉายภาพการเคลื่อนไหวทางปัญญาในยุคแห่ง 2500 หากยังฉายภาพการไหลเลื่อนในทางความคิดอย่างทรงพลัง
เป็นพลังต่อการเคลื่อนไหวในเดือนตุลาคม 2516
ก่อนเข้าร่วมฟังการเสวนาภายใต้หัวข้อ “บทบาทปัญญาชนไทย ก่อนสมัย 2500” จึงต้องตระเตรียมความคิด
ความคิด 1 คือยอมรับกับความหลากหลายในกระบวนการทางปัญญา ความคิด 1 คือ ทุกกระบวนการทางปัญญาล้วนมีเป้าหมายเพื่อแสวงหาหนทางให้กับสังคมประเทศไทยทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะนำหน้าโดย “ม.จ.” ไม่ว่าจะนำหน้าโดย “นาย”