คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ผ่านมา 1 สัปดาห์ หลังมีการเสนอคำว่า “ปรองดอง” เข้าสู่พื้นที่ในทาง “การเมือง” แม้ในเบื้องต้นจะปรากฏฝุ่นตลบ แต่หากพยายามแยกจำแนกภายในความปั่นป่วนวุ่นวาย

ก็จะค่อยๆ “เข้าใจ”

ไม่ว่าจะมองเข้าไปยังกลุ่มที่แสดงความ “เห็นด้วย” ไม่ว่าจะมองเข้าไปยังกลุ่มที่แสดงความ “ไม่เห็นด้วย” ก็จะประจักษ์ต่อสภาพความเป็นจริงอันดำรงอยู่

ที่เห็นด้วยเพราะ “มั่นใจ” ในบทบาทของ “คสช.”

เมื่อมองเห็นภาพการลงมาด้วยตนเองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานเข้ากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย่อมมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้

หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำไม่ได้

ก็จำเป็นต้องเลิกคิดได้เลยว่า โอกาสที่ “สังคมประเทศไทย” จะบังเกิดความปรองดอง สมานฉันท์นั้นเลิกคิดได้เลย

ถามว่าแล้วน้ำเสียงในทำนอง “ไม่เห็นด้วย” นั้นมาอย่างไร

ต้องยอมรับว่าภายในกลุ่มที่แสดงน้ำเสียงคล้ายกับจะ “ไม่เห็นด้วย” มิใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับการปรองดอง สมานฉันท์ แต่ที่ออกมาคล้ายกับจะเป็นไปในแบบนั้น

มาจากความไม่มั่นใจว่า “ปรองดอง” จะ “สำเร็จ”

นั่นก็คือ เห็นในความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นในความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ก็เข้าใจในความสลับซับซ้อนของปัญหาที่หมักหมม สะสมมายาวนานภายในสังคมประเทศไทย

จึงไม่เชื่อว่าความตั้งใจจริงนี้จะสัมฤทธิผลได้

ขณะเดียวกัน ภายในกลุ่มของคนที่ท้อแท้ สิ้นหวังต่อ “ปรองดอง” ว่าเกิดขึ้นยากภายในสังคมประเทศไทย เพราะมองปัญหาจากมุมของคนประเภท “เปอร์เฟ็กชั่นนิสต์”

คือมองไกลไปถึงความสมบูรณ์ ครบถ้วนของการปรองดอง

หากฟังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แถลงออกมาเป็นลำดับก็จะเข้าใจว่า ตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เองก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องสมบูรณ์ ครบถ้วน ตามความหมายของ “ปรองดอง”

สิ่งที่เสนอเข้ามาก็คือ ต้องหา “ข้อตกลง” ให้ได้ก่อน

บทบาทและความหมายของ “ข้อตกลง” นี้มิได้หมายถึง “ยาวิเศษ” ที่เมื่อกรอกลงไปแล้วจะทำให้ความขัดแย้ง แตกแยก หมดสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง

ความหมายก็หมายความว่าเป็นการเริ่มต้นนับ 1

หากไม่มีการเริ่มต้นนับ 1 จากสิ่งที่เรียกว่า “ข้อตกลง” ร่วมกันก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถก้าวเข้าไปสู่ก้าวที่ 2 หรือก้าวที่ 5 ได้

ปัญหาเกิดขึ้นเพราะมองไปยังก้าวที่ 10 โดยไม่สนใจก้าวที่ 1 นั่นเอง

จากนี้จึงเห็นได้ว่า ความจำเป็นเฉพาะหน้าอย่างสำคัญก็คือ การทำความเข้าใจร่วมกันเบื้องต้นเรื่องปรองดอง

ความเข้าใจนี้จำเป็นต้องหารือร่วมกันและจำเป็นต้องมี “ประธาน” ที่ได้รับการยอมรับกระทั่งสามารถสรุป ความเห็น “ร่วม” นั้นออกมาให้ได้กระทั่งกลายเป็น “ข้อตกลง”

“ข้อตกลง” นี่แหละคือจุดเริ่มต้นอันทรงความหมายของ “ปรองดอง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน