ระยะ การเมือง ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ใกล้เข้ามา อีกนิด : วิเคราะห์การเมือง
ระยะ การเมือง ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ใกล้เข้ามา อีกนิด : วิเคราะห์การเมือง – ยิ่งสถานการณ์เลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เคลื่อนเข้ามาใกล้มากเพียงใด น้ำเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งใกล้เคียงกับน้ำเสียงของพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ มากยิ่งขึ้น
ถามว่ามาจาก “ปัจจัย” อะไรในทางการเมือง
เป็นเพราะความนุ่มนวลของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำให้ภายในพรรคประชาธิปัตย์สามารถรับได้
หรือเป็นเพราะอย่างน้อย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์
คำตอบที่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ รู้ดีอย่างที่สุดว่ามิได้มีปัจจัยมาจากพวกเขา ไม่ว่าโดยพรรค ไม่ว่าโดยตัวบุคคล
หากแต่เป็นบทบาทของ “คสช.” มากกว่า
บทบาทของคสช.ในการออกประกาศฉบับที่ 57/2557 หรือแม้กระทั่ง คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 อันมีผลให้ทุกพรรคการเมืองต้องติดอยู่ใน “ล็อก” นั้นช่างเถิด
เพราะเป็นเรื่องตั้งแต่ปี 2557 และปี 2558
แต่ที่มิอาจมองข้ามได้อย่างเด็ดขาด กลับเป็นคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560 คำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 13/2561 และรวมถึงคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 16/2561 ต่างหาก
นี่ไม่เพียงแต่ใช้อำนาจตาม “มาตรา 44”
หากแต่ยังเป็นการใช้อำนาจไม่เพียงแต่มองข้ามบทบาทของ “รัฐธรรมนูญ” หากแต่ยังเท่ากับเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองโดยไม่ต้อง ผ่านความเห็นชอบของสภา
ส่งผลให้พรรคตระกูล “พลัง” รับไปเต็ม-เต็ม
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจเพื่อเคลื่อนไหว ทางการเมืองผ่าน “ครม.สัญจร” ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจเพื่อหาเสียงล่วงหน้าด้วยการผลิต “โครงการ” ก่อนการเลือกตั้ง
มาตรการแจกแหลก แจกสะบั้น หั่นแหลก
เป็นการอนุมัติผ่าน “ครม.” โดยมีกรรมการบริหารพรรคตระกูล “พลัง” นั่งและมีส่วนร่วมในการอนุมัติเห็นชอบเต็มพิกัด
เหมือนกับเป็นการกระทำในฐานะ “4 ยอดกุมาร”
มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงแต่เอาเปรียบพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ หากแต่ยังเท่ากับเป็นการเอาเปรียบพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วย
ตาคนไม่ใช่ตาไม้ หูคนไม่ใช่หูกระทะ
เป็น 1 คสช. เมื่อประสานเข้ากับ 1 พรรคตระกูล “พลัง” อันมีพรรคพลังประชารัฐเป็นกองหน้า เชื่อมโยงประโยชน์ระหว่างกันและกันบนพื้นฐานคำประกาศ
“รัฐธรรมนูญนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
ไม่ว่าจะเป็นการแจกเงินล่วงหน้า หาเสียงล่วงหน้า ขณะที่พรรคการเมืองไม่สามารถพูดอะไรได้ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างชนิดผ่าอำเภอ ฉีกภูเขา
นั่นแหละทำให้ “ประชาธิปัตย์” กับ เพื่อไทย ไทยรักษาชาติ ต้องเข้ามายืนอยู่ใกล้กัน