อารมณ์ สังคม อารมณ์ มกราคม 2561 มกราคม 2562– ทุกอย่างพัฒนาไปรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ จากการชุมนุมคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้งในวันที่ 6 มกราคมก็ประกาศเป้าหมายใหม่จะย้อนกลับมาชุมนุมอีกในวันที่ 8 มกราคม

หากว่ายังไม่มี “คำตอบ” ที่แน่ชัด

เหมือนกับว่าเป็นการถามไปยัง “กกต.” แต่เอาเข้าจริงๆ ก็คือ การถามไปยัง 1 คสช. และ 1 รัฐบาล เพราะคำตอบ ของกกต.ย่อมมาจาก

พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

ที่เดิมเชื่อกันว่าน่าจะประกาศในวันที่ 2 มกราคม แต่แล้วก็เลื่อนมาและแม้เมื่อผ่านการหารือร่วมระหว่างคสช. รัฐบาลและกกต.ในวันที่ 3 มกราคมก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด

ทำไมทุกสายตาจึงมองไปยัง 1 คสช. 1 รัฐบาล

คําตอบไม่มีอะไรสลับซับซ้อน กระบวนการของพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอาจสัมพันธ์กับกกต. แต่ที่สุดแล้วก็อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาล

และเมื่อเป็นรัฐบาลก็ต้องมองไปยัง “คสช.”

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในสถานะแห่งหัวหน้ารัฐบาล แต่ที่ไม่ควรลืมอย่างเด็ดขาดก็คือยังดำรงอยู่ในสถานแห่ง “หัวหน้าคสช.”

เพราะทั้งหมดนี้ล้วนมีจุดเริ่มมาจาก “รัฐประหาร”

เป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 โดยคสช. ต่างหากที่บันดาลให้เกิดทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเรียกว่า “แม่น้ำ 5 สาย” ไม่ว่าจะเรียกว่า “กกต.”

กำหนดวันเลือกตั้ง หรือไม่เลือกตั้งจึงมีที่มาที่ไป

การโยนกันไปโยนกันมาระหว่างคสช. รัฐบาล กับ กกต. จึงเสมอเป็นเพียงการเล่นละครเรื่องหนึ่งโดยมีการเลือกตั้งเป็นเดิมพัน

คำถามอยู่ที่ว่าทำไมจึงไม่สามารถ “ลงตัว”

ก็ต้องย้อนกลับไปยังรากฐานเดิมของการตัดสิน ใจคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณโดยที่ประชุมใหญ่สปช.เมื่อเดือนกันยายน 2558 อันเป็นที่มาของบทสรุป

“เขาอยากอยู่ยาว”

นั่นแหละทำให้ไม่ว่า “ปฏิญญาโตเกียว” ก็ต้องเลื่อน ไม่ว่า “ปฏิญญานิวยอร์ก”ก็ต้องเลื่อน ไม่ว่า “ปฏิญญาทำเนียบขาว”ก็ต้องเลื่อน

กลายเป็นโรคระบาดไปยัง “ปฏิญญาลอนดอน”

เหมือนกับว่าเมื่ออำนาจอยู่ในมือคสช.เช่น นี้ “วันเลือกตั้ง”จะเป็นวันไหน หรือแม้กระทั่งจะไม่มีการเลือกตั้งเลยคสช.กับรัฐบาลและกกต.ก็สามารถทำได้

กระนั้น เมื่อเห็นปฏิกิริยาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ก็เริ่ม ไม่ใช่แล้ว

เพราะนั่นคือปฏิกิริยาอันต่อเนื่องมาจาก เดือนมกราคม 2561 และสะท้อนให้เห็นว่าแม้เมื่อมาถึงเดือนมกราคม 2562 ความเรียกร้องต้องการการเลือกตั้งก็ยังเป็นปัญหา

ต้องรอดูว่าสถานการณ์ในวันที่ 8 มกราคมจะเป็นเช่นใด