คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

การไม่ยอม “ปลดล็อก” ให้กับพรรคการเมืองและนักการเมืองจะกลายเป็นประเด็น “ร้อน” ในสถานการณ์แห่ง “ปรองดอง”

ตอนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจจะยังไม่เชื่อ

แต่เมื่อใดที่ “ปรองดอง” เข้าสู่รันเวย์ มีการจัดตั้งคณะกรรมการ มีการขับเคลื่อนออกจากกระทรวงกลาโหม

เมื่อนั้นแหละจะตระหนักในความจำเป็นต้อง “ปลดล็อก”

คสช.และรัฐบาลอาจสามารถเบรกในเรื่อง “นิรโทษกรรม” เบรกในเรื่อง “อภัยโทษ” ลงได้เพราะทุกคนยังเจ็บมาจากบรรยากาศปลายปี 2556 ตอนที่เสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

นิรโทษกรรมอย่างที่เรียกกันว่า “สุดซอย”

แต่กล่าวสำหรับความเรียกร้องต้องการให้มี “การปลดล็อก” พรรคการเมืองและนักการเมืองเชื่อได้เลยว่าอุณหภูมิจะเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

กลายเป็น “กระแส” และมี “ความจำเป็น”

ถามว่าทำไมการปลดล็อกให้กับพรรคการเมืองและนักการเมืองจึงมีความจำเป็น และในที่สุดคสช.และรัฐบาลก็ต้องยินยอมให้

คำตอบ 1 เวลาของ “รัฐประหาร”

ต้องยอมรับว่า เวลาของรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2558 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2559

และอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่เดือนพฤษภาคม 2560 ครบ 3 ปี

ขณะเดียวกัน คำตอบ 1 ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือ บรรยากาศแห่ง “ปรองดอง” สะท้อนให้เห็นอย่างน้อยก็แสดงว่ามีสภาพการณ์บีบบังคับให้จำต้องกระทำโดยคสช.และรัฐบาล และเงื่อนไขที่ปรองดองไม่สามารถเดินหน้าได้หรอกหากไม่มีการเปิดกว้างในทางความคิด

*ถึงอย่างไร “ล็อก” ก็จะต้องมีการ “ปลด”

หากคสช.และรัฐบาลไม่ยอม “ปลดล็อก” หรือคลายให้เบาบางลง ในที่สุด คสช.และรัฐบาลจะตกอยู่ในสภาพเป็น “จำเลย” ในทางสังคม

เท่ากับตกอยู่ในความหวาดกลัว

เป็นไปไม่ได้ที่คสช.และรัฐบาลจะผลักดัน “ปรองดอง” บนพื้นฐานแห่งความหวาดกลัว ตรงกันข้ามกระบวนการปรองดองต้องมาจากความมั่นใจในอำนาจ

นั่นก็คือ พรรคการเมืองและนักการเมืองถูกลงโทษมาพอสมควรแล้ว

กำปั้นเหล็กที่คสช.และรัฐบาลกระทำต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองอย่างต่อเนื่องเกือบ 3 ปี นับว่าเพียงพอแล้ว ไม่น่าจะมีใครไม่ได้รับบทเรียน

จึงแทบไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะแสดงความกลัว ความหวาดระแวง

เหมือนกับเมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สำทับออกมา พรรคการเมือง นักการเมือง จะยอมรับโดยดุษณี

แต่การยอมรับของพรรคการเมืองและของนักการเมืองก็เป็นการยอมรับอย่างมีลักษณะ “กัมมันตะ” แต่ในการเคลื่อนไหวก็รุกประชิดคสช.และรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เป็นปฏิบัติการทาง “ความคิด” เป้าหมายเพื่อก่อ “กระแส”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน