เป้าโค่นทำลายต่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอนาคตใหม่
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เป้าโค่นทำลายต่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและอนาคตใหม่ : ปรากฏการณ์ “ฟ้ารักพ่อ” ได้ส่งผลสะเทือนและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างลึกซึ้งในสังคมยุคใหม่ของประเทศไทย
1 ทำให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีพื้นที่มีที่ยืน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ตามมาก็คือ ความนิยมเป็นอย่างสูงในการถ่าย “เซลฟี่” ระหว่างแฟนานุแฟนกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
แม้จะต้องใช้เวลาที่ยืดเยื้อและยาวนานอย่างยิ่ง
1 ที่แหลมคมเป็นอย่างมากคือ การนำไปสู่การเปรียบเทียบระหว่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนักการเมืองคนอื่น ไม่เว้นแม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถามว่าทำไมสถานการณ์ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงหนักหนาสาหัสยิ่งกว่านักการเมืองคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่เป็นหมายเลข 1 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่
จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปแสดงบทบาทใน “สภา”
ทั้งๆที่มี ส.ส.จำนวนนับร้อยที่ถูกร้องเรียนในเรื่องการถือครองหุ้นสื่อ แต่ก็มีเพียง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้นที่ต้องยุติบทบาท
ไม่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังถูกรุกไล่อีกหลายเรื่อง
ความรุนแรงของการกล่าวหาและข้อเสนอไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้น หากวางเป้าหมายไว้ถึงระดับ “ยุบพรรค”
คําตอบที่ตรงเป้าอย่างที่สุดเป็นไปตามบทสรุปเอาไว้นานแล้วของ พล.ต.หลวงวิจิตร วาทการ นั่นก็คือ จงทำดีแต่อย่าเด่น ไม่มีใครเห็นเราเด่นเกิน
เมื่อเด่นมากๆ ก็มีคนอยากทำลาย อยากบดขยี้
เพราะว่าจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ได้ไม่ถึง 1 ปีแต่สามารถได้รับความไว้วางใจสูงถึง 6.3 ล้านเสียง ได้ส.ส.มา 81 คน
มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่าพรรคภูมิใจไทย
สภาพความเป็นจริงเช่นนี้แหละที่เย้ายวนต่อพรรคการเมืองอื่นให้เกิดกระบอกตาร้อนผ่าวและดำเนินการบดขยี้ทำลายทุกลมหายใจเข้าออก
แปลกเป็นอย่างยิ่ง แทนที่พรรคการเมืองอื่น นัก การเมืองอื่นจะใช้ฝีมือและความสามารถในการสร้างพรรค สะสมความไว้วางใจจากประชาชน
กลับคิดทำลาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
กลับประโคมโหมคดีความและข้อกล่าวหาต่างๆ นานาสุมไปให้กับพรรคอนาคตใหม่ เตะสกัดขัดขวางในทุกกระบวนท่าเท่าที่จะนึกคิดสรรหามาได้
คำถามก็คือ จะสำเร็จหรือว่าจะล้มเหลว