เรื่องจริง การเมือง ปัญหา ธนาธร อนาคตใหม่ รอด หรือ ไม่รอด

เรื่องจริง การเมือง ปัญหา ธนาธร อนาคตใหม่ รอด หรือ ไม่รอด

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง – พรรคอนาคตใหม่กำลังประสบกับประสบการณ์ “ตรง” ประสบการณ์ “จริง” อันแหลมคมเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า “อนาคต” จะเป็นอย่างไร

จะกลายเป็นพรรคอนาคต “ไหม้” อย่างที่มีการตั้งสมญา และในที่สุดจะแปรสภาพกลายเป็นพรรคอนาคต “หมด” อย่างที่มีการคาดหมายหรือไม่

ความเป็นจริงทางการเมืองจะเป็น “คำตอบ”

คำตอบในที่นี้มิได้หมายถึง “อนาคต” ของพรรคอนาคตใหม่อย่างเดียว หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่ารากฐานทางความคิด ทางการเมืองและทางการจัดตั้งแข็งแกร่งเพียงใดด้วย

หากมองผ่านการสำแดงออกไม่ว่าของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช มากด้วยความมั่นใจ

มั่นใจว่า “ความคิด” ยืนหยัด มั่นคง

แต่คำถามก็คือ บรรดา ส.ส.อีก 70 กว่าคน ยังแข็งแกร่งและมั่นคงหรือไม่ บรรดาสมาชิกนับหมื่นที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศแข็งแกร่งและมั่นคง หรือไม่

นี่คือ รากฐานให้ทาง “การจัดตั้ง” ว่าเป็นอย่างไร

บทสรุปจากบทกวีของ จิตร ภูมิศักดิ์ ที่ว่า “หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน จะทานหรือจะทนพิสูจน์ได้เมื่อภัยมา” จะเป็นเครื่องทดสอบได้ อย่างเป็นจริง

ต้องยอมรับว่านับจากผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ปรากฏออกมา พรรคอนาคตใหม่ก็ต้องเผชิญประสบกับการบดขยี้และทำลายในทุกวิถีทาง

เพราะได้คะแนนกว่า 6 ล้าน เพราะมีส.ส.กว่า 80

ยิ่งพรรคอนาคตใหม่ไปผนึกเข้ากับ พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย

ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างสูง

เมื่อดึงมาเป็นพวกมาเป็นบริษัทบริวารไม่ได้ ก็มีหนทางเดียวเท่านั้นคือ ต้องบดขยี้ ต้องทำลาย ทำอย่างไรจึงจะกำจัดพรรคอนาคตใหม่ออกไปจากสารบบ

ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ล้วนสรุปสภาพทางการเมืองที่เผชิญประสบสอดรับเป็นเอกภาพ

นั่นก็คือ รู้อยู่แล้ว คาดหมายอยู่แล้วว่าจะต้อง “เกิด”

คำถามอันตามมาโดยอัตโนมัติก็คือ เมื่อคาดหมายแล้วได้ตระเตรียม “ยุทธวิธี” อย่างไรในการต่อสู้ ตรง นี้ต่างหากที่สำคัญ ตรงนี้ต่างหากที่มีความหมาย

เป็นความหมายในเชิง “ปฏิบัติ” เป็นความหมายในทาง “เป็นจริง”