นอกเหนือจาก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตต่อสถานะของโรดแม็ป “เลือกตั้ง” อย่างชนิดต่อเนื่องและเกาะติดแล้ว
ต้องยอมรับว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร มีความโดดเด่น
คล้ายกับในเบื้องต้นทั้ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จะปะทะกับมือกฎหมายอย่าง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ หรือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย
แต่ในที่สุดก็ยกระดับสูงขึ้นเป็นลำดับ
คู่ต่อกรของทั้ง 2 ในระยะหลังจึงเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้พ้น
เรียกได้ว่า ยืนซดกันหมัดต่อหมัด
ความแม่นยำของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สังคมรับรู้จากการยืนยันอย่างมั่นใจว่าจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 แม้ความเชื่อในปี 2559 จะเป็นอย่างนั้น
เพราะเขามีบทเรียนมาจาก “ปฏิญญา โตเกียว”
ในที่สุด “ปฏิญญา นิวยอร์ก” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยืนประกาศกลางที่ประชุมของสหประชาชาติก็กลายเป็นเหมือนกับเศษกระดาษ
ไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560
และไม่เพียงไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 แม้กระทั่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปประกาศต่อหน้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวว่าจะมีในปี 2561
ก็ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562
เหมือนกับคำมั่นที่ว่าโรดแม็ปการเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะเป็นที่สุด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยัน
ยิ่งกว่านั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยืนยัน
ครานี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการเลือกตั้งไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ หากแต่น่าจะเป็นหากไม่ใช่เดือนเมษายน ก็เป็นเดือนพฤษภาคม 2562 มากกว่า
โดยอาศัย “ปัจจัย” จากการ “ศาลรัฐธรรมนูญ”
พลันที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อนำส่งร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยิ่งมากด้วยความมั่นใจ
คำถามก็คือ โรดแม็ป “เลือกตั้ง” จะเลื่อนอีกหรือไม่
หากมองจากสมาชิกสนช.สายห้อย สายโหน การที่โรดแม็ปการเลือกตั้งจะ “เลื่อน” จากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีความเป็นไปได้ และก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แต่กล่าวสำหรับ “สังคม” การเมืองอาจไม่มองอย่างนั้น
เพราะหากเลื่อนจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ไม่เพียงแต่เท่ากับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ทำนายได้ถูกต้อง เป็นจริง
ความน่าเชื่อถือของ “คสช.” ก็ย่อมลดน้อยถอยลงไปอีก