ส.ป.ก.ภูเก็ตชี้แจงข่าว

เรื่อง ขอชี้แจงข่าว กรณีตรวจค้นจับกุมเพื่อกวาดล้างนอมินี ต่างชาติทำทัวร์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

เรียน บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสด

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์รายวันและสื่อออนไลน์ ระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2561 กรณีการตรวจค้นจับกุมเพื่อกวาดล้างนอมินีต่างชาติทำทัวร์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น สืบเนื่องจากเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่มที่กลางทะเลอันดามัน เขตจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสูญหาย และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และกวาดล้างนักธุรกิจชาวจีนที่เข้ามาดำเนินธุรกิจทางด้านการ ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยมีชาวไทยเป็นนอมินีในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงได้มีการสนธิกำลัง กับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตและสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต (ส.ป.ก.ภูเก็ต) ร่วมกันตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ที่ดินติดริมทะเล บริเวณหาดนุ้ย) หมู่ที่ 2 ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นั้น

ในการนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า

1.ตำแหน่งที่ดินดังกล่าว อยู่ในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดิน โครงการป่าเทือกเขานาคเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลเชิงทะเล ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง ตำบลกมลา ตำบลกะทู้ ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ และตำบลเกาะเแก้ว ตำบลรัษฎา ตำบลวิชิต ตำบลกะรน ตำบลฉลอง ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2537

2.ที่ดินแปลงที่เกิดเหตุ เดิมมีหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เลขที่ 239 ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ 18 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา ปรากฏชื่อนายธนา โชติพนัง และนายหฤษฎ์ มาสาซ้าย ครอบครองที่ดินร่วมกัน ต่อมาศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนหลักฐาน น.ส.3 ดังกล่าว ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8530/2557 ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2557

3.เมื่อ พ.ศ.2559 ส.ป.ก.ภูเก็ต สอบถามผลการดำเนินการของสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ในการเพิกถอน น.ส.3 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ดำเนินการเพิกถอน น.ส.3 เพื่อให้เป็นไปตาม คำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ที่ดินแปลงดังกล่าวกลายเป็นสภาพที่ดินไม่มีเอกสารแสดงสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน และตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด ซึ่งได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

4.ส.ป.ก.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พนักงานสอบสวน ทหารและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ร่วมกันตรวจสอบตั้งแต่ พ.ศ.2557 ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีบุคคลหลายกลุ่มซึ่งมีอิทธิพลอ้างสิทธิการถือครองที่ดิน จนถึงปัจจุบันก็ไม่สามารถชี้ชัดว่าบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นผู้ถือครองทำประโยชน์ที่แท้จริง โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการพิพาทแย่งสิทธิการถือครองที่ดินระหว่างกลุ่มอิทธิพลดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถเสนอคดีเพื่อให้พนักงานอัยการฟ้องขับไล่กลุ่มบุคคลเหล่านั้นได้ ทั้งนี้ส.ป.ก.ภูเก็ต ได้มีการประสานกับเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อให้มีการรื้อถอนอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ด้วยแล้ว

5.วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ส.ป.ก.ภูเก็ต ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรน พร้อมนักข่าวตามสื่อต่างๆ ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ ค 44/2561 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 จากการตรวจสอบสภาพที่ดินดังกล่าวติดริมทะเล (หาดนุ้ย) ไม่มีสภาพป่ารก กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักอาศัย พร้อมไว้เปิดบริการเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยว มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารต่างๆ อีกจำนวนหลายครั้ง มีการก่อสร้างถนนคอนกรีต ลักษณะเป็นการก่อสร้างใหม่ มีพืชผลอาสินในบริเวณที่ดิน อาทิ มะพร้าว และมีการปิดกั้นทางน้ำซึ่งเป็นลำห้วยสาธารณะ ทำเป็นฝายกั้นน้ำและก่อสร้างซุ้ม พักผ่อนขวางทางน้ำ ทั้งนี้ใช้ชื่อว่า “วอเตอร์ บีช คลับ” โดยมีนางธัญวลัย ฐานิชธนเกียรติ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/2 ซอยเลียบคลองสอง 16 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพ มหานคร แสดงตัวรับว่าเป็นผู้จัดการและดูแลพื้นที่ดังกล่าว ในนามบริษัท ภูเก็ต สวิง จำกัดและบริษัท วอเตอร์ บีช จำกัด

6.พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และส.ป.ก.ภูเก็ต จึงร่วมกันจับกุมตัวนางธัญวลัย ฐานิชธนเกียรติ ซึ่งแสดงตัวรับว่าเป็นผู้จัดการและดูแลพื้นที่ดังกล่าว ในนามบริษัท ภูเก็ต สวิง จำกัด และบริษัทวอเตอร์ บีช จำกัด เพื่อดำเนินคดีฐานบุกรุกและยึดถือครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและฐานความผิดตามกฎหมายป่าไม้หลายบทหลายกระทง

7.ได้ดำเนินร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายแล้ว และได้มอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับที่ดินบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาความ เชื่อมโยงเกี่ยวกับผู้ถือครองที่ดินว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับนักธุรกิจชาวจีน ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยมีชาวไทยเป็นนอมินีในการดำเนินธุรกิจในนามบริษัท ภูเก็ต สวิง จำกัดและบริษัท วอเตอร์ บีช จำกัด ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว

ส.ป.ก.จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง หากมีผลความคืบหน้า ส.ป.ก.จะชี้แจงให้ทราบต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ

นายสุรจิตต์ อินทรชิต

เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน