เรียน บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสด

อ้างถึง หนังสือพิมพ์ข่าวสด ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2561

ตามที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ประจำวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ได้นำเสนอข่าว ประเด็นนางสาวบุญเรือง สุขขัง ร้องทุกข์เรื่องที่ดินทำกิน ความว่า นางสาวบุญเรือง สุขขัง ชาวบ้านในรักษ์ หมู่ 4 ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางมาประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดชุมพร เพื่อขอให้ช่วยเหลือกรณีที่กรมชลประทานเวนคืนที่ดินเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งกรมชลประทานได้เวนคืนที่ดินของนางสาวบุญเรือง สุขขัง จำนวน 9 ไร่ ไปทำฝายน้ำล้นเมื่อปี 2557 ซึ่งได้ยกให้โดยไม่ขอรับเงินเวนคืนจำนวน 4 ไร่ แต่อีกจำนวน 5 ไร่ ขออยู่อาศัยทำกิน แต่ทางกรมชลประทานไม่รับข้อเสนอดังกล่าวนี้ ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

กรมชลประทานขอเรียนว่า กรมชลประทานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมก่อนการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ทั้งด้านการศึกษาทางด้านวิศวกรรม การศึกษาวางโครงการพิเศษโครงการประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง จนแล้วเสร็จเมื่อ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559 เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ในบริเวณพื้นที่คลองรับร่อ อำเภอท่าแซะ เมื่อเกิดฝนตกหนักเป็นเวลานานมักจะเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้พื้นที่เพาะปลูกและทรัพย์สินต่างๆ ของราษฎรในพื้นที่อำเภอท่าแซะและอำเภอเมืองชุมพร ได้รับความเสียหายเป็นประจำ รวมถึงในช่วงฤดูแล้ง ยังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งทุกปี ทั้งนี้หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการจะสามารถเพิ่มประโยชน์ให้แก่พื้นที่การเกษตร การอุปโภคและบริโภค ตลอดจนสามารถป้องกันและบรรเทาอุทกภัยได้

นอกจากนี้กรมชลประทานได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมชี้แจงและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ของโครงการไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยผู้นำท้องถิ่นในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบของโครงการ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เป็นการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและการสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งน้ำ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียและได้รับผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบของโครงการ ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 99 คน โดยมี นางจำเริญ สุขขัง ซึ่งเป็นญาติของนางสาวบุญเรือง สุขขัง (ผู้ร้องทุกข์) เข้าร่วมประชุมด้วย ในที่ประชุมมีข้อสรุปว่าให้เยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ ชาวบ้านยังต้องการให้มีการก่อสร้างประตูระบายน้ำและฝายชะลอน้ำขนาดเล็กเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต้นน้ำอีกด้วย

ต่อมามีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนท้องที่ตำบลรับร่อ และตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งปรากฏว่าเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกเวนคืนบางส่วน ไม่พอใจราคาค่าทดแทนตามที่คณะกรรมการจัดซื้อและกำหนดค่าทดแทนทรัพย์สินกำหนด โดยมีสิทธิอุทธรณ์ราคาค่าทดแทนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหากยังไม่พอใจในคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็สามารถใช้สิทธิฟ้องศาลได้ภายในกำหนด 1 ปี ซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้ร้องจะได้รับการเยียวยาจากทางภาครัฐตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วทุกกรณี อีกทั้งยังจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินค่าทดแทน วันที่ได้รับตามกำหนดว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์

สำหรับอัตราค่าทดแทนที่ดิน กรมชลประทานได้ตั้งจากราคาซื้อขายตามปกติในท้องตลาดที่ได้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 โดยพื้นที่ติดถนนซอยทางที่เป็นอยู่อาศัยมีราคาทุนทรัพย์ไร่ละ 60,000 บาท กำหนดให้ไร่ละ 500,000 บาท ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมที่เหลือในแปลงเดียวกันที่มีการประเมินไร่ละ 60,000 บาท กำหนดราคาไร่ละ 200,000 บาท ทั้งนี้ที่ดินของผู้ร้องนั้นเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ (น.ส.3) ซึ่งปัจจุบันติดทางสาธารณประโยชน์ โดยกรณีเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ กรมชลประทานได้ดำเนินการตกลงซื้อขายที่ดินโดยวิธีเจรจาซื้อขายเป็นลำดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ กรมชลประทานจะดำเนินการจ่ายเงินค่าทดแทนทรัพย์สินแก่ราษฎรผู้ครอบครองและทำประโยชน์โดยมีคณะกรรมการกำหนดค่าราคาที่ดินทดแทนทรัพย์สินเพื่อการชลประทาน

ดังนั้น การจัดหาที่ดินของโครงการประตูระบายน้ำบ้านหาดแตง จังหวัดชุมพร จึงเป็นไปตามกระบวนการและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สำหรับกรณีการสูญเสียที่อยู่อาศัยทั้งหมดจากการเวนคืนที่ดินรายนางสาวบุญเรือง สุขขัง ที่ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรีนั้น กรมชลประทานจะดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน และจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวในทุกมิติทั้งทางด้านกฎหมาย ด้านสังคม และด้านวิศวกรรม โดยจะรายงานผลให้ทราบต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย จะขอบคุณยิ่ง

ขอแสดงความนับถือ

นายมนัส กำเนิดมณี

รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมชลประทาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน