หวังเวทีสภาช่วยคลี่วิกฤต

บัตรคนจน-จนหนัก

คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

หวังเวทีสภาช่วยคลี่วิกฤต – เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด

การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26-27 ต.ค. คาดหวังอย่างสูงว่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิในสภาทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คงจะหารือช่วยกันหาทางออกได้ดีในวิกฤตการณ์ชุมนุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องของ กลุ่มเยาวชน ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกๆ หลานๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ แม้การประชุมครั้งนี้จะไม่ได้มีการลงมติก็ตาม แต่การประชุมก็ควรจะเป็นรูปธรรมที่สามารถแก้วิกฤติที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นเวทีโต้วาที ประชันฝีปาก หรือสรรหาวาทกรรมที่ให้โลกต้องจำ เนื่องจากเวลามีน้อยเฉลี่ยแล้วแต่ละฝ่ายซึ่งมี 4 ฝ่าย แบ่งกันได้ไม่กี่ชั่วโมง อย่ามั่วโต้เถียงหรือยกมือค้านป่วนสภา จะทำให้เสียเวลาสุดท้ายจะไม่ได้อะไรเลยในการประชุมครั้งนี้ เพราะปัญหาที่เกิดอยู่เป็นปัญหาที่สะสม ที่คนรุ่นใหม่มองและไม่ทนต่อไป

ถึงเวลาแล้วที่ควรจะพูดคุยกันได้ด้วยดี เมื่อให้ถอยคนละก้าว ก็ควรจะมีการแก้ไข และเวทีสภาเป็นเวทีที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา จะได้ไม่ต้องปิดถนนประท้วง เพราะการปิดถนนไม่ว่าฝ่ายไหนก็ทำความลำบากให้กับผู้คนทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้คนที่ต้องทำหากิน ต้องเดินทางสัญจร แม้ว่าไม่ได้ปักหลักพักค้างเหมือนม็อบอื่นๆ ที่ผ่านมา เห็นใจเจ้าหน้าที่กทม.ต้องเก็บขยะหลังเลิกชุมนุมแทนที่จะได้กลับบ้านพักผ่อน แล้วยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร กลุ่มผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนหน้า แต่เจ้าหน้าที่ยังหน้าเดิมๆ ถึงกับมีบางนายเปรียบเปรยว่า เป็นผ้าขี้ริ้วคอยเช็ดถูทำความสะอาด

ด้วยความเคารพ

คั่วกลิ้ง

ตอบ คุณคั่วกลิ้ง

ถูกต้องแล้วว่า เวทีสภาควรเป็นช่องทางหลักของบ้านเมือง ในการหาทางออกในสถานการณ์ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาประท้วงอย่างมากมายทั่วประเทศขณะนี้ เพียงแต่ท่าทีของฝ่ายรัฐบาลที่แสดงออกก่อนการเปิดประชุม พูดว่าพร้อมรับฟังปัญหา แต่ก็ยืนยันจะไม่ทำตามข้อเรียกร้อง เช่น นายกฯไม่ลาออกเด็ดขาด ทำให้พรรคฝ่ายค้านเริ่มวิจารณ์ว่า ก็แค่เปิดเพื่อฟอกตัวเท่านั้น จึงเกรงว่าคงไม่สามารถหยุดการประท้วงที่คงจะยกระดับเพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกันการประท้วงของเด็กรุ่นใหม่เป็นที่กล่าวขวัญกันมาก เรื่องวินัยและการรักษาความสะอาดในการชุมนุมทุกครั้ง

บัตรคนจน-จนหนัก

ถึง บ.ก.

ผมอายุ 67 ปี มีบัตรคนจน ปีนี้ของก็ยังไม่ได้ซื้อเลย ค่ารถก็ไม่ได้ไปไหน ค่าไฟ-ค่าน้ำก็ไม่กี่บาท เงินก็ไม่ได้ไปกด ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ ตอนแรกก็ยุ่งๆ อยู่ ต่อมามีโรคระบาดก็กลัว พอล็อกดาวน์ก็ปล่อยไปก่อน มาเดือนกันยายนไปกดได้ไม่ถึง 1,000 บาทก็งง ต่อมาอีก 3 วันลองไปกดดู 0.00 บาท ก็งงครับ ปีที่แล้วซื้อของที่ร้านค้า ทางร้านก็เช็กบัตรเพียงเสี้ยววินาที ก็คืนให้บัตรก็อยู่กับตัวเก็บมิดชิดไม่เคยหาย ถ้าหลวงไม่พอจ่าย ก็ไม่เป็นไหร่ครับ เงินก็ของหลวง ก็ทำมาหากินกันไปตามอัตภาพ เครื่องเอทีเอ็ม ติดขัดหรือเปล่า มีใครฉกฉวยหรือเปล่า เดือดร้อนจริงๆ ก็แบ่งปันได้ ฉกฉวยกันไม่ดี งงมากๆ ครับ เงินก็ไม่มาก

ขอบคุณครับ

มณูญ

ตอบ คุณมณูญ

อ่านปัญหาของคุณแล้วน่าเห็นใจอย่างมาก และไม่อยากให้คิดว่าเป็นเงินของหลวง เพราะจริงๆ เป็นเงินจากภาษีอาการของประชาชน ซึ่งควรต้องตอบสนองต่อประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน