คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย

ช่องทางชำระค่าตั๋วรถไฟ – เรียน บ.ก.

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดทดลองให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่ง รูปแบบใหม่ ในระบบ D-Ticket ผ่านช่องทางออนไลน์ ถือว่าอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้บริการอย่างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะปรับปรุงคือเรื่องการชำระค่าโดยสารนั้น ให้ชำระเป็นบัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ น่าจะเพิ่มช่องทางอื่นเช่นโอนเงินจากบัญชีต่างธนาคารกันได้ ถ้าเปิดช่องให้บัญชีจากต่างธนาคารจะสะดวกยิ่งกว่านี้ เพราะผู้ใช้บริการบางคนไม่มีทั้งบัตรเครดิต/เดบิตและบัตรสวัสดิการของรัฐ

นับถือ

นิชา

ตอบ นิชา

เห็นด้วยว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ก็น่าพิจารณาเปิดช่องทางการชำระเงินดังที่คุณนำเสนอมา

อลหม่านรถไฟฟ้าสายสีเขียว – เรียน บ.ก.ข่าวสด

ผู้โดยสารย่านชานเมืองย่านคูคต ดอนเมือง บางเขน จะมีโอกาสได้นั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันอย่างถาวรกันจริงๆ ที่ผ่านมาก็ทดสอบการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุถึงสถานีคูคต ไม่พบปัญหาด้านเทคนิคการเดินรถ เช่นเดียวไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แต่ปัญหาอยู่ที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ขู่จะหยุดวิ่งให้บริการ เพราะกทม.ยังไม่ได้จ่ายเงิน 8 พันล้านบาท

กทม.เองบอกว่า กทม.ไม่มีเงิน ถ้าไม่มีเจ้าภาพที่จะชำระเงินคงต้องปล่อยให้ทิ้งไว้เฉยๆ เหมือนเอาประชาชนเป็นตัวประกันเลย ถ้ายอมให้ต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มเติมอีก 30 ปีจากที่จะสิ้นสุดในปี 2572 ไปยาวถึง 2602 ล้อจะหมุนหรือไม่ ข้องใจ และส่วนที่ต่อไปถึงคูคต จ.ปทุมธานี นั้นเป็นความรับผิดชอบของท้องถิ่นในจังหวัดปทุมฯ หรือไม่ เช่นเดียวกับช่วงต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ หรือทั้งสองต่อขยายนั้นเป็นความรับผิดชอบของกทม.เอง

ถ้าไม่ยอมต่อสัญญาสัมปทาน แล้วให้กระทรวงมหาดไทย ในฐานะพี่ใหญ่ของท้องถิ่น เป็นผู้รับผิดชอบหนี้สินแทน อย่างนี้จะได้หรือไม่ เห็นว่าถ้ารัฐจัดการค่าโดยสารจะถูกว่าเอกชนให้บริการ เนื่องจากอัตราค่าโดยสารระบุว่าจากหมอชิต-คูคต ก็ 65 บาทแล้ว ไปกลับก็ 130 บาท ยังไม่นับว่าต้องต่อรถไปไหนอีก แถมจะปรับค่าโดยสารขึ้นทุก 2 ปีตามดัชนีผู้บริโภค

ด้วยความเคารพ

รอใช้บริการ

ตอบ คุณรอใช้บริการ

ยังเป็นปัญหาอลหม่านทั้งเรื่องหนี้ 8 พันล้านบาทและปมการต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของเงินภาษีและควรจะได้รับการบริการ ก็ต้องเฝ้ารอดูกันต่อไป

แพะในสถานการณ์ม็อบ – ถึง บ.ก.ข่าวสด

ในฐานะเครือญาติของข้าราชการตำรวจ รู้สึกหนักใจแทน กับภารกิจของตำรวจในขณะนี้ในการรับมือกับม็อบเด็กลูกหลาน ทำให้ตำรวจถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงขั้นไป สาดสีใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมก็เห็นด้วยว่าตำรวจต้องระมัดระวังให้มาก อย่าทำให้เกิดภาพความรุนแรง

แต่อยากเรียกร้องไปถึงนายกฯ ประยุทธ์ว่า ควรจะต้องลงมาพูดคุยเจรจา หรือจะตัดสินใจหาทางออกในทางการเมืองใดๆ ก็ว่ามา อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แล้วปล่อยให้ตำรวจต้องรับศึกไปเรื่อยๆ เพราะตำรวจเป็นแค่ปลายทาง ไม่ใช่คนตัดสินใจแก้ปัญหา ยิ่งนานวัน ตำรวจก็ยิ่งเสียภาพพจน์ ทั้งที่ความจริงตำรวจเป็นแค่แพะรับบาปในปัญหาทางการเมืองครั้งนี้

ญาติสีกากี

ตอบ ญาติสีกากี

ปัญหาการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง จะใช้แต่ตำรวจมารับหน้า ก็ทำให้ตำรวจต้องบอบช้ำสถานเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน