เรื่อง ชี้แจงข่าวชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอห้วยเม็ก ถูกยักยอกเงินฝากออมทรัพย์ในโรงเรียนแห่งหนึ่งจำนวน 10 ล้านบาท
เรียน บรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ตามที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 21 มกราคม 2561 นำเสนอข่าวชาวบ้านจำนวน 50 คนในอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็กว่า ถูกผู้บริหารและครูซึ่งเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอห้วยเม็ก ยักยอกเงินฝากออมทรัพย์ของผู้ปกครองและนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวจำนวนกว่า 10 ล้านบาท
ซึ่งชาวบ้านได้นำเงินมาฝากไว้กับทางโรงเรียน ตามคำชักชวนของคณะผู้บริหารและครูตั้งแต่ปี 2539 โดยไม่เคยถอนเงินฝากสะสมและดอกเบี้ยออกมาใช้ และไม่เคยตรวจสอบงบดุลหรือการหมุนเวียนของเงินที่นำไปฝากดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อใจว่าคณะกรรมการที่บริหารเงินดังกล่าวเป็นครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนหลายปี และในการร้องทุกข์กับทางศูนย์ดำรงธรรม ชาวบ้านไม่มีใบเสร็จนำฝากมาอ้างอิง มีเพียงสมุดฝากเงินออมทรัพย์มาแสดงเป็นหลักฐานเท่านั้น โดยทางตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว ผู้บริหารและครู จำนวน 7 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีออกนอกพื้นที่นั้น
กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งการสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ดังนี้
1. จากการเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้รับคำชี้แจงจากนายคูณ สุขรี่ ปลัดอำเภอห้วยเม็ก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็ก ได้ความว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนและ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ โดยมีการระบุว่า ผู้ร้องไม่สามารถเบิกเงินฝากจากกองทุนออมทรัพย์โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ ซึ่งผู้ร้องมิได้ระบุว่าเป็นเงินสหกรณ์แต่อย่างใด
2. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ แต่ไม่พบสิ่งบ่งชี้ที่แสดงว่ามีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในโรงเรียนดังกล่าว เช่นป้ายชื่อสหกรณ์ อีกทั้งจากคำชี้แจงของครูในโรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ แจ้งว่าในโรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ ไม่มีกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนในโรงเรียนแต่อย่างใด
3.การตรวจสอบรายชื่อสหกรณ์ ที่ได้รับจดทะเบียนตามกฎหมาย ที่อยู่ในการแนะนำส่งเสริมของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่พบชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์แต่อย่างใด และจากการสอบถามครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนในปัจจุบัน ทราบว่าการเปิดรับฝากเงินออมทรัพย์จากชาวบ้านเป็นการกระทำของคณะครูในอดีตของโรงเรียน จำนวน 9 ราย (เสียชีวิต 2 ราย)
4. เจ้าหน้าที่ได้เข้าพบนายหนูพิพัฒน์ เรืองแสง และนายสงวน ไชยหานิจ ซึ่งเป็นผู้ร้องกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็ก ได้รับเอกสารเป็นสมุดเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งเป็นหลักฐานการรับฝากเงินจากชาวบ้าน มีการลงนามโดยนายอุทัย ทองยืน ระบุตำแหน่ง “ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์” เป็นการแอบอ้างใช้คำว่า “สหกรณ์” ซึ่งตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ห้ามมิให้ผู้ใดนอกจากสหกรณ์และสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ใช้คำว่า “สหกรณ์” เป็นชื่อหรือส่วนหนึ่งของชื่อในทางธุรกิจ ประกอบกับไม่ปรากฏว่ามีการรับจดทะเบียนตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ในบัญชีรายชื่อสหกรณ์ที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์
5.สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ได้มอบหมายให้นางจิรานุช เชื้อไพบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มตรวจการสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่นิติกรของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ไปลงบันทึกประจำวันร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรห้วยเม็ก ว่านายอุทัย ทองยืน แอบอ้างใช้ชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนคำมันปลาผดุงวิทย์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสหกรณ์โดยรวม และทำให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับผลกระทบจากกรณี ดังกล่าว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอความอนุเคราะห์ในการ เผยแพร่ข้อเท็จจริงดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ ถูกต้องต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
