ทะลุคนทะลวงข่าว

จัดกระบวนค้ำอำนาจเรียบร้อย กองทัพบก ยุคคสช.จัดมาตอบโจทย์การ ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามโรดแม็ปที่กำลังมุ่งเข้าสู่การเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2560

โดยเฉพาะที่หัวขบวนอย่างพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฟ้นเองกับมือ คือตำแหน่งผบ.ทบ.

ที่สุด เปิดทาง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท สายรบพิเศษ แทรกทะลุกำแพง“บูรพาพยัคฆ์” ที่สืบทอดครองเก้าอี้นานร่วมทศวรรษ มาเป็นหมวกแดงคนที่ 4 ขึ้นบัญชาการกองทัพ เป็นผบ.ทบ.คนที่ 40 ตามรอย 3 รุ่นพี่อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ พล.อ.วิมล วงศ์วานิช ผบ.ทบ.คนที่ 28 (2535-2538) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.คนที่ 31 (2541-2545) และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.คนที่ 35 (2548-2550)

แต่หลังจากนั้นบูรพาพยัคฆ์เหมารวด

การเลือกนายทหารจากสายรบพิเศษสลับขึ้นมานั่งผบ.ทบ. นอกจากจะมาค้ำ อำนาจของคสช. ในช่วงปฏิรูปประเทศและเตรียมการเลือกตั้งแล้ว ยังเป็นการเปลี่ยนถ่ายดุลอำนาจในการแต่งตั้งนายทหารที่จะขึ้นมานั่งในตำแหน่งสำคัญๆ ของ ทบ.ด้วย เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการผูกขาดเพียงขั้วอำนาจใดอำนาจหนึ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่เลือกเป็นสายตรงน้องรักของพล.อ.สุรยุทธ์ “ลูกป๋า” ปรากฏการณ์แซงโค้งคนนอนมาจึงเกิดขึ้น พร้อมกับบ้านที่เคยบอกว่าจะไม่เปิด กลับมาเปิดต้อนรับชื่นมื่น

“บิ๊กเจี๊ยบ” ผบ.ทบ.คนใหม่ วัย 59 เกิด 20 ต.ค. 2500 ขยับขึ้นมาจากผู้ช่วย ผบ.ทบ.

โรงเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 16 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 27 รุ่นเดียวกับ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง พล.ท.ภัทรพล รักษนคร

เติบโตในสายรบพิเศษ เชี่ยวชาญเรื่องการข่าว การปฏิบัติการพิเศษ และปฏิบัติการลับ

ผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งเสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ก่อนเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ

จากนั้นเป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ แล้วเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.

1 ต.ค. 2559 ขึ้นเป็นผบ.ทบ. ด้วยอายุราชการที่จะยาวนานถึงก.ย.ปี 2561

ทั้งจะเป็นเลขาธิการ คสช. โดยตำแหน่ง

ตามด้วยเก้าอี้พรีเมียม แม่ทัพภาคที่ 1 ส่งพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จากแม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นคุมกำลัง

นายทหารวงศ์เทวัญ น้องรักสายบู๊

“บิ๊กแดง” วัย 56 เกิด 23 พ.ค. 2503 ลูกชาย “บิ๊กจ๊อด”พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตหัวหน้ารสช.

ศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ตท.20 และจปร.31 เหล่าทหารราบ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์น วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ผ่านหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารบก และวิทยาลัยเสนาธิการทหาร

เคยเป็นนักบินประจำกองบินปีกหมุนศูนย์การบินทหารบก และฝ่ายเสนาธิการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) และรองเสนาธิการร.11 รอ.

ต่อมาเป็นผบ.ร.11 พัน.2 รอ. ก่อนติดยศพ.อ.ในตำแหน่งเสธ.ร.11 รอ.

ขึ้นเป็นรอง ผบ.ร.11 รอ. และไปราชการสนามที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส

จากนั้นเป็นเสธ.พล.1 รอ. ก่อนเป็นผบ.ร.11 รอ.

เป็นรองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รอ. และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15

เป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รอ. และรองแม่ทัพภาคที่ 1

เข้าตาบิ๊กตู่ ได้รับเลือกให้เป็นประธานบอร์ดกองสลาก

ล่าสุดจากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แล้ว

แม่ทัพภาคหมาดๆ อีกคน พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3

“บิ๊กตี๋” ตท.18 จปร.29 และจบโรงเรียนเสนาธิการทหารบก

รับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารม้า ที่ 15 จ.น่าน จากนั้นย้ายมาที่กองยุทธการ กองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 14 อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ริเริ่มการขอพระราชทานนามค่ายทหารชื่อค่าย เปรม ติณสูลานนท์ ในปี 2539 ซึ่งปัจจุบันเติบโตขยายเป็นกองพันทหารม้าที่ 3

ขึ้นเป็นผู้อำนวยการกองยุทธการ กองทัพภาคที่ 3 และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน

จากนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 (ผบ.มทบ.32) ค่ายสุรศักดิ์มนตรี

มี.ค. 2559 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3

ถึง ต.ค.ปีเดียวกันนี้ รับงานแม่ทัพ ภาคที่ 3

อีกแม่ทัพใหม่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ที่ปรึกษากองทัพบก เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เพียบคุณสมบัติด้านการข่าว คร่ำหวอดในพื้นที่ภาคใต้มาตลอด

น้องชายแท้ๆ ของ “บิ๊กหมู” พล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ที่กำลังจะเกษียณราชการ และพี่ชายแท้ๆ “ผู้การอู๋” พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช (ตท.23) ที่ได้ขยับจากรอง ผบ.พล.ร.9 เป็น ผบ.พล.ร.9

“บิ๊กอาร์ท” เกิดในครอบครัวทหาร มีบิดาและพี่น้องทุกคน รวมถึงพี่สาว รับราชการทหาร

ตท.18 จปร. 29 เติบโตจากหน่วยข่าวมาโดยตลอด ขณะยศพ.ท. เป็นหน่วยข่าวกรองทางทหารสนับสนุนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จากนั้นเข้าหน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.)

ติดยศพ.อ. เป็นผู้อำนวยการศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ (ศสฉ.) หรือศูนย์ ซักถามและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงของฝ่ายทหาร ศูนย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลการข่าวและโครงสร้างกลุ่มก่อความไม่สงบที่ได้จากการซักถามผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีความสำคัญที่สุดในการกำหนดยุทธการในพื้นที่ชายแดนใต้

ขึ้นพล.ต. ตำแหน่งประจำ แต่ก็ยังทำงานด้านการข่าว และประจำอยู่ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

กลับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหัวหน้าส่วนประสานงานไทย-มาเลเซีย และ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.4 สน.)

ครองยศพล.ท.ในตำแหน่งที่ปรึกษากองทัพบก

ต.ค.นี้ ผงาดขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4

ผนึกกันเข้าเป็นฐานอำนาจของคสช.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน