คอลัมน์ ข่าวทะลุคน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ชี้แจงหลังปรากฏการณ์ฟ้าผ่าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจกฎหมายมาตรา 44 สั่งปลด วุฒิชาติ กัลยาณมิตร พ้นตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. ให้ไปดํารง ตําแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรี

ให้ อานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการในตําแหน่ง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อีก ตําแหน่งหนึ่ง

คำสั่งเดียวกัน ยังให้ปรับปรุงคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ด้วย

รมว.คมนาคม ยืนยันว่าจำเป็นต้องปรับปรุงบอร์ดรฟท. ให้มีบุคลากรที่หลากหลายเข้ามาช่วยทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลโครงการ รวมทั้งต้องให้เกิดความมั่นใจว่าโครงการจะเข้าสู่การปฏิบัติได้

แจงด้วยว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่งานและโอกาสต่างๆ ของรฟท.เริ่มเข้าสู่การปฏิบัติ มีการประกวดราคา การปรับปรุงบอร์ดให้มีความหลากหลายเป็น ส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การกำกับดูแลในปีนี้ที่ รฟท.จะมีโครงการรถไฟรางคู่ออกมาอีก 9 เส้นทาง บางโครงการยังล่าช้าอยู่ รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง ส่วนโครงการที่ประกวดราคาแล้ว ก็นำไปสู่การปฏิบัติ ให้บอร์ดเข้ามากำกับการทำงานของ รฟท.

ระบุด้วยว่าที่ผ่านมาโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ล่าช้ามาระยะหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเร่งรัดให้เป็นไปตาม เป้าหมาย ส่วนโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น รถไฟทางคู่เส้นทางจิระ-ขอนแก่น พบปัญหาการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเส้นทางลากผ่านหมู่บ้านทำให้หมู่บ้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เมื่อเร็วๆ นี้ รมช.คมนาคมต้องลงไปแก้ปัญหาและสร้างความเข้าใจด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่าอะไรเป็นเหตุผลที่ต้องปลดผู้ว่าฯ เรื่องความล่าช้าคือเหตุผลเดียวหรือไม่ มีปัญหาเรื่องการทุจริตหรือไม่ ตอบว่า คงเป็นทุกมิติ ทั้งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องให้โปร่งใส ก็ต้องสร้างความมั่นใจ เพราะโครงการจะทยอยเข้ามาจำนวนมาก และแต่ละโครงการมีมูลค่าที่สูง

วัย 61 สำเร็จปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ วิทยาลัยวิลเลียม สหรัฐอเมริกา

เข้ารับราชการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

เคยเป็น ผอ.กองวิเคราะห์และประมาณการเศรษฐกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและแผน ก่อนเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ สศช. และที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน

เป็นรองเลขาธิการ สศช. แล้วขึ้นเป็นเลขาธิการ สศช.

รัฐบาล คสช.ตั้งเป็น รมช.คมนาคม ก่อนให้ขยับเป็นเจ้ากระทรวง และ ยื่นลาออกจากข้าราชการตำแหน่งเลขาธิการ สศช.

ก่อนหน้านี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2560 เรื่อง การปรับปรุงการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยที่สมควรปรับปรุงการบริหารงานของ รฟท.ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557

หัวหน้าคสช.โดยความเห็นชอบของคสช.จึงมีคำสั่ง ให้นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯ รฟท. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่ง และให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกฯ ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 68/2559 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 16 พ.ย.2559

ให้นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท. อีกตำแหน่งหนึ่ง

วุฒิชาติเปิดเผยว่าพร้อมปฏิบัติตาม คำสั่ง เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวมีผลเป็นไปตามกฎหมาย

รับตำแหน่งนี้เมื่อปีใหม่ 2558 ตามมติคณะกรรมการ รฟท. เพราะได้คะแนนสูงสุด

รัฐศาสตรบัณฑิต และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ผ่านงานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษารองนายกฯ

สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550

เคยเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด 2 วาระติดต่อกัน

ข้ามห้วยมาเป็นผู้ว่าการ รฟท.คนที่ 18

กระทั่ง 23 ก.พ. 2560 พ้นจากตำแหน่งตามอำนาจ ม.44

ส่วน อานนท์ เหลืองบริบูรณ์ เคียงมาในฐานะเข้ารักษาการ

เพิ่มมาอีกตำแหน่งจากที่เป็นรองอธิบดีกรมทางหลวง

สําเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

ลูกหม้อกระทรวงคมนาคม จากตำแหน่งวิศวกรโยธา

ก้าวหน้ามาเป็นลำดับจนเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านตรวจสอบและวิเคราะห์) วิศวกรวิชาชีพ 9 วช. สำนักวิเคราะห์และตรวจสอบ และ ผอ.สำนักอำนวยความปลอดภัย

ก.พ. 2558 เป็นรองอธิบดีกรมทางหลวง

คสช.เลือกมารักษาการคุมรฟท.

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับภารกิจที่เพิ่มขึ้น น่าจับตาว่าจะเป็นไปอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน