สังคมสะเทือนใจไปกับความสูญเสียของครอบครัวตัญกาญจน์ พิเชษฐ- สุกัลยา ตัญกาญจน์ สูญเสียลูกชายคนเดียว ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ไปในวัยอันไม่สมควรยิ่ง เพียงเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารชั้นปี 1 ถึงแก่ชีวิตในสถานศึกษา

นอกจากสาเหตุที่ยังไม่กระจ่างแล้ว ครอบครัวยังช็อกเมื่อพบจากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ว่า อวัยวะสำคัญภายในร่างกายหายไปเกือบหมดสิ้น

หัวใจ ปอด กระเพาะ ตับ ม้าม และสมองที่มีกระดาษทิชชูยัดไว้แทนที่ในกะโหลกศีรษะ

สะเทือนใจจนนำสู่การฟ้องสังคม

ผู้เป็นพ่อเผย ลูกชายเสียชีวิตหลังกลับเข้าไปโรงเรียนเตรียมทหารเพียง 1 วัน และไม่ได้รับคำชี้แจงที่ละเอียดจาก ผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการตาย ระบุว่าเกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

จากนั้นได้นำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตพบว่า อวัยวะภายในดังกล่าวหายไปทั้งหมด

อ้างว่าตรวจพบกระดูกซี่โครง 4 ซี่หัก และมีรอยช้ำภายในช่องท้องด้านขวา

ครอบครัวต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง ด้วยการนำร่างของบุตรชายผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

คุณพ่อน้องเมย พิเชษฐ ตัญกาญจน์ นักแข่งรถชื่อดังของประเทศ เช่นเดียวกับภรรยา สุกัลยา ตัญกาญจน์ สังกัดทีม โตโยต้า และปตท.

มีลูก 2 คน คือ “เมี่ยง”สุพิชชา และ “เมย”ภคพงศ์

นับเป็นความสูญเสียใหญ่หลวง เชื่อการเสียชีวิตของลูกชายในรั้วโรงเรียนเตรียม ทหาร เป็นผลจากการธำรงวินัย หรือระบบซ่อมที่รุ่นพี่กระทำกับรุ่นน้อง

ครอบครัวจึงชอกช้ำกับคำพูด “ก็ไม่ต้องเข้ามาเรียน ไม่ต้องมาเป็นทหาร เราเอาคนที่เต็มใจ”

การร้องบอกต่อสังคมทำให้ได้รับคืนอวัยวะจากหน่วยงานที่เก็บไว้ แล้ว “หลักฐานสำคัญ” เหล่านั้นก็ถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งระดม 6 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก 3 โรงพยาบาลรัฐ ร่วมชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง เพิ่มความเชื่อมั่น และให้รู้ผลใน 7 วัน

สมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผย ขั้นตอนแรกได้ตรวจแล้วว่าอวัยวะที่ส่งมามี หัวใจ สมอง ตับ ม้าม กระเพาะ ปอด และอีกหลายอย่างให้แพทย์ตรวจสภาพอวัยวะว่าสมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่

ขั้นตอนที่ 2 ตรวจชิ้นเนื้อบางส่วนของอวัยวะว่าดีเอ็นเอตรงกับน้องเมยหรือไม่ และขั้นตอนที่ 3 จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย เบื้องต้นมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจอวัยวะ 3 คน แต่ตอนนี้เพื่อความมั่นใจและถูกต้อง ได้เพิ่มทีมแพทย์ที่มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกทางด้านพยาธิสมอง พยาธิหัวใจ และทางด้านนิติเวช มาช่วยด้วย รวมกัน 3 สถาบัน ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

รวมแล้วมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 6 คน ตรวจชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต

ระบุด้วย จะดำเนินการตามมาตรฐานของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะชันสูตรและหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยใช้เวลาภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ญาติบอกว่าไม่รีบร้อน แต่ต้องการทราบสาเหตุที่ชัดเจนและถูกต้องที่สุด คาดว่าภายในระยะเวลา 7 วันนั้นจะรายงานผลให้กับร้อยเวรและญาติ เบื้องต้นได้ตรวจรายงานอวัยวะเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าถ้าหากทีมแพทย์ร่วมกันหาสาเหตุครบทีมทั้ง 6 คน ภายใน 7 วันจะทราบผล

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ วัย 58 เกิด 20 มี.ค. 2502

ปริญญาตรีเศรษฐศาสตรบัณฑิต จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิติศาสตรบัณฑิต ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย

เคยเป็นผู้อํานวยการส่วนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สํานักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ผู้อํานวยการสํานักนโยบายและประสานแผนกระบวนการยุติธรรม สํานักงานกิจการยุติธรรม และรองผู้อํานวยการสํานักงานกิจการยุติธรรม

เป็นที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง

18 ต.ค.59 ที่ประชุมครม. มีมติตั้งดำรงตำแหน่งผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ฝ่ายทหารยังมีกรรมการสอบข้อเท็จจริง นอกจากภายในโรงเรียนเตรียมทหารเองแล้ว

โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์

คณะกรรมการประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากกรมกำลังพลทหาร คณะแพทย์จากสำนักงานแพทย์ เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนกระทั่งวันเสียชีวิต รวมถึงตรวจสอบคลิปต่างๆ ที่เผยแพร่ทางโซเชี่ยล

นอกจากนี้จะตรวจสอบถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

รวมถึงตรวจสอบเรื่องการซ่อมของรุ่นพี่ด้วยว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะโดยปกติถือเป็นระเบียบปฏิบัติด้วยข้อห้ามทำอะไรที่เกินกว่าเหตุอยู่แล้ว ใครก็ตามที่กระทำผิด จะต้องถูกรับโทษตามระเบียบ เพราะโรงเรียนเตรียมทหารมีระเบียบที่เคร่งครัดถึงการซ่อมรุ่นน้องของรุ่นพี่

ประธานสอบหาความจริงคดีการตายของนักเรียนเตรียมทหาร

พล.อ.อ.ชวรัตน์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 17 (ตท.17) นักเรียนนายเรืออากาศรุ่นที่ 24 (นนอ.24)

เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกองบัญชาการกองทัพอากาศ

อาทิ เจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ ก่อนขยับขึ้นเป็นรองเสนาธิการทหารอากาศ และเป็นพล.อ.อ.ในตำแหน่งหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา

ข้ามฟากมาเป็นรองเสนาธิการทหาร

ผบ.สส.เพื่อนร่วมรุ่นตท.17 ตั้งเป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของน้องเมย

เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ทำข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้ง ในห้วงเวลาที่ครอบครัวและสังคมค้างคาใจ

ทั้งนี้ล่าสุด พล.อ.ธารไชยยันต์ ลงนามในคำสั่งปรับย้าย พ.อ.ฉัตรชัย ดวงรัตน์ ผู้บังคับ การกรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการปัองกันประเทศ (ผบ.กรม.นร.รร.ตท.สปท.) ไปอยู่ในตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการประจำ บก.ทท.

ย้าย น.ท.นพศิษฐ์ เพียรชอบ ผู้บังคับกองพันนักเรียน กรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร ไปประจำหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน