พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วัคซีนการเมือง? : คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย…มันฯ มือเสือ
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วัคซีนการเมือง? – เรื่องโควิดกับพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คู่กันมาตลอด
วันจันทร์ที่ผ่านมาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค.แถลงตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดภายในประเทศ
เหลือ 0 เป็นเวลานาน 14 วันติดต่อกัน
ซึ่งความจริงเป็นสัญญาณดีทั้งในแง่การคลายล็อกระยะ 4 และการยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินตามกำหนดสิ้นเดือนมิ.ย.
เพื่อนำพาประเทศและประชาชนเข้าสู่วิถีชีวิตแบบปกติใหม่ หรือนิว นอร์มอล
แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีพูดถึงพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า กำลังเตรียมการใน 3 รูปแบบ คือ
1.ต่ออายุ 2.ยกเลิก และ 3.ต่ออายุแต่ลดความเข้มข้นลง เช่น ไม่ห้ามการชุมนุม ไม่มีเคอร์ฟิว เป็นต้น
หากจับประเด็นจากสิ่งที่นายวิษณุให้สัมภาษณ์ไว้ทั้งหมด
สื่อมวลชนและหลายคนที่ได้ยินได้ฟังรู้สึกไปในทำนองเดียวกัน
ว่ารัฐบาลอาจจะไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินง่ายๆ แม้สถานการณ์โควิดดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
มีความพยายามชี้แจงว่าพ.ร.บ.โรคติดต่อที่มีอยู่เดิมนั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดรอบสอง
ซึ่งถ้าตีความตามข้อกล่าวอ้างดังกล่าว อาจหมายความได้ว่ารัฐบาลจะต้องต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโควิดหรืออย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีความเสี่ยงต่อการระบาดรอบสองอยู่ดี
อีกประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตคือ ความพยายามพูดถึงความจำเป็นของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังสอดรับกับอุณหภูมิการเมืองซึ่งกำลังร้อนแรงสวนทางกับสถานการณ์โควิด
กรณี ‘อุ้มวันเฉลิม’ กำลังเป็นตัวจุดชนวนการเมืองรอบใหม่
ขณะที่ภายในพรรคแกนนำรัฐบาลกำลังระส่ำระสายจากปัญหาขัดแย้งแย่งชิงอำนาจกันเอง
สะเทือนถึงเสถียรภาพรัฐบาลโดยรวม
ฉะนั้นหากจะมีการต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปไกลกว่าเดือนมิ.ย.
น่าจะเป็นไปเพื่อใช้ควบคุมการเมือง ไม่ใช่ควบคุมโควิดตามที่กล่าวอ้าง