การติดตั้งระบบจรวดสอยจรวดรุ่นใหม่ในชื่อ “ระบบต่อต้านขีปนาวุธข้ามทวีปในชั้นบรรยากาศปลายทาง” หรือ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) ของสหรัฐอเมริกาในเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากจีนอย่างที่สุด
แม้สหรัฐและเกาหลีใต้จะอ้างเหตุผลว่าเพื่อรับมือกับเกาหลีเหนือ แต่การมาติดตั้งในเกาหลีใต้ที่เหมือนอยู่หลังบ้านจีนนั้น บั่นทอนแสนยานุภาพของจีนอย่างชัดเจน
ทำไม ธาด THAAD ทำให้จีนต้องกระวนกระวายใจเช่นนี้
นายแดน ซูเตอร์ ผู้อำนวยการแผนกธุรกิจเชิงพาณิชย์ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ผู้พัฒนา THAAD กล่าวว่า ระบบ THAAD ถือเป็นกุญแจสำคัญหนึ่งในโครงการระบบป้องกันไอซีบีเอ็มของสหรัฐ หรือ BMDS (U.S. Ballistic Missile Defense System)
เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2530 (ค.ศ.1987) และนำมาใช้ครั้งแรกในสงครามอ่าว ระหว่างยุทธการ Desert Shield และ Desert Storm ในปี 2534 (ค.ศ.1991) เพื่อไว้ใช้ยิงสกัดขีปนาวุธสกั๊ดของกองทัพอิรัก
จากนั้นพัฒนาต่อให้มีขีดความสามารถทำลายไอซีบีเอ็มพิสัยใกล้ไปจนถึงปานกลางได้
จุดเด่นของ THAAD อยู่ที่การไม่มีหัวรบ หลักการของขีปนาวุธชนิดนี้จะใช้พลังงานจลน์ (Kinetic energy) กล่าวคือ ใช้วิธีการพุ่งชนเป้าหมาย ทำลายไอซีบีเอ็มที่ติดหัวรบได้ทุกชนิดอย่างปลอดภัย
ไม่ว่าจะเป็นหัวรบเคมี หัวรบชีวภาพ หรือหัวรบนิวเคลียร์ เพราะหัวรบเหล่านี้จะไม่ถูกจุดชนวนให้ระเบิดกลางอากาศ
จุดเด่นอีกอย่างของ THAAD คือ ขีดความสามารถในการทำลายไอซีบีเอ็มทั้งแบบในชั้นบรรยากาศ (Endoatmospheric) และนอกชั้นบรรยากาศโลก (Exoatmospheric)
ไม่เหมือนกับระบบต่อต้านขีปนาวุธรุ่นก่อนหน้านี้ เช่น MIM-104F (PAC-3) หรือที่นิยมเรียกกันว่าระบบแพตทริออต (Patriot) ติดตั้งในเกาหลีใต้ ซึ่งมีพิสัยการยิงที่สั้นกว่าและเป็นระบบต่อต้านแบบในชั้นบรรยากาศเท่านั้น รวมถึงระบบขีปนาวุธจากเรือสู่อากาศของ Raytheon RIM-161 Standard Missile 3 (SM-3) ที่ใช้ร่วมกับระบบต่อสู้เอจิส Aegis Combat System (ACS) ในกองเรือยุทธการที่ 7 ของสหรัฐในทะเลญี่ปุ่น เป็นระบบต่อต้านแบบนอกชั้นบรรยากาศเพียงอย่างเดียว
เมื่อเทียบกับทั้งสองระบบแล้ว THAAD เป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธที่ยืดหยุ่นและเข้าแทรกอยู่อีกชั้นหนึ่งตรงกลางระหว่างระบบทั้งสอง
THAAD ยังออกแบบมาเพื่อต่อต้านการโจมตีแบบ MIRV (Multiple Independently targetable Reentry Vehicle) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาชนะระบบต่อต้านขีปนาวุธรุ่นเก่า
ขีปนาวุธแบบ MIRV จะติดตั้งหัวรบไว้หลายหัวรบโปรยลงมายังพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งแท่นยิง THAAD 1 แท่น จะมีขีปนาวุธถึง 72 ลูก จึงสามารถต่อต้านเทคนิคชนิดนี้ได้
หลังไอซีบีเอ็มพุ่งขึ้นจากฐานออกไปนอกชั้นบรรยากาศโลก และเริ่มกลับมาในชั้นบรรยากาศโลกเพื่อพุ่งเข้าหาเป้าหมายปลายทาง (เรียกว่าระดับเทอร์มินอล) THAAD จะเข้าทำลายที่ระดับนี้
นอกจากนี้ THAAD ยังทำงานประสานกับระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่น อาทิ แพตทริออต หรืออีจิส ส่งรับข้อมูลจากเรดาร์ และข้อมูลจากศูนย์บัญชาการประสานงานยุทธการ (C2BMC)
แท่นยิง THAAD จะติดตั้งไว้บนรถ เคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ หรือภาวะตึงเครียดที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ทั้งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธที่โดดเด่น มีระดับหวังผล 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม จากการยิงทดสอบ 11 ลูก สามารถทำลายเป้าหมายได้ทั้งหมด
ปัจจุบัน THAAD เข้าประจำการแล้วบนเกาะฮาวาย เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากไอซีบีเอ็มของเกาหลีเหนือ ทั้งยังได้รับการติดตั้งไว้บนเกาะกวมที่มีฐานทัพสหรัฐ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เกาหลีเหนือเคยขู่ไว้
รวมไปถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี โอมาน และล่าสุด ประเทศเกาหลีใต้ โดยกองบัญชาการป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธและยุทธการรบในอวกาศของสหรัฐ (ASMDC)
นอกจากนี้ยังพิจารณาจะติดตั้งที่กองบัญชาการสหรัฐภาคพื้นยุโรป (EUCOM) ในทวีปยุโรป และกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) กำลังพิจารณาติดตั้ง THAAD ในตะวันออกกลางด้วย