คอลัมน์ เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์
เวลิชกา ดีมิโทรวา จากมหาวิทยาลัยรอยัลฮอลโลเวย์ ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า จากการศึกษาตารางการเรียนวิชาต่างๆ ของ นักเรียนชั้นประถมฯ ถึงมัธยมศึกษาทั่วประเทศบัลแกเรีย เป็นเวลานานกว่า 9 ปี ก่อนนำมาเปรียบเทียบกับผลสอบ พบว่าเด็กที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ในช่วงเช้า โดยเฉพาะเด็กที่เรียนคณิตศาสตร์ตั้งแต่คาบแรกของวัน มีคะแนนสอบวิชาเลขมากกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่เรียนวิชาดังกล่าวในช่วงบ่าย ขณะที่ผลสอบวิชาประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า เด็กที่เรียนประวัติศาสตร์หลัง พักเที่ยงทำคะแนนได้ดีกว่าเพื่อนที่เรียนประวัติศาสตร์ในช่วงเช้า
นักวิจัยอธิบายว่า ทักษะที่ใช้ในการเรียนคณิตศาสตร์ ทั้งการวิเคราะห์ การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล การทำซ้ำ และการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน จำเป็นต้องใช้พลังสมองอย่างมาก ช่วงเช้าเป็นเวลาที่สมองมีความพร้อมสูงสุดหลังพักผ่อนนอนหลับเต็มที่ การไหลเวียนโลหิตสูบฉีดคล่องตัว และช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ส่งผลให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อการรับข้อมูลใหม่ๆ
ส่วนวิชาประวัติศาสตร์นั้น เน้นใช้ทักษะด้านการจดจำ และการประมวลข้อมูลต่อเนื่อง หลังอาหารเที่ยงสมองจะถูกกระตุ้นด้วย สารอาหารที่จำเป็น รวมถึงน้ำตาลที่ช่วยสร้างความตื่นตัว และทำให้มีสมาธิ วิชาที่ต้องให้ความสนใจต่อเนื่องจึงเหมาะกับการเรียน ตอนบ่ายที่สุด
