คอลัมน์ ข่าวสดหลากหลาย

จันท์เกษม รุณภัย

ภาพ เอเอฟพี/รอยเตอร์/ซีเน็ต

“กูเกิ้ล” หนึ่งในเจ้าวงการยุทธจักรเทคโนโลยีชั้นนำของโลกของสหรัฐอเมริกา กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้งในงาน นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีประจำปีของทางค่าย

มาในชื่องานว่า Google I/O 2017 ที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ปีนี้ นับเป็นการครบรอบ 10 ปี ของการประชุมนี้ด้วย ไฮไลต์ในครั้งนี้ กูเกิ้ลนำเสนอนวัตกรรมทางด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ อย่างกูเกิ้ล เลนส์ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ หรือแอนดรอยด์ โอ ภายใต้นโยบายใหม่ที่ปรับเปลี่ยนจาก “มุ่งพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารอันดับแรก” มาเป็น “มุ่งพัฒนาเอไออันดับแรก”

นับเป็นทิศทางของเทคโนโลยีโลกที่น่าติดตามชม ทางซีเน็ต เว็บไอทีชื่อดังของอังกฤษนำไฮไลต์ที่กูเกิ้ลประกาศในงานมาให้ชมกัน

กูเกิ้ล เลนส์ (Google Lens)

เริ่มกันที่ ไฮไลต์ ที่เรียกเสียงฮือฮา มากที่สุดจากบรรดาผู้เข้าร่วมงานและสื่อมวลชนแขนงไอที นั่นคือ กูเกิ้ล เลนส์ (Google Lens)

ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ผู้ใช้จับต้องได้ หากแต่มันเป็นระบบวิเคราะห์ภาพด้วย Google Assistant – กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ เอไอของกูเกิ้ล ไม่ว่าจะเป็นข้อความใด ภาษาใด ไปจนถึงสิ่งของ ไม่ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมจริง หรือจากภาพถ่ายก็ตาม

ผู้ใช้เพียงใช้กล้องของสมาร์ตโฟนส่องไปที่เป้าหมาย กูเกิ้ล เลนส์ จะวิเคราะห์ภาพอย่างรวดเร็วและหารายละเอียดมาให้

ฟังดูเหลือเชื่อแต่มันเกิดขึ้นจริงแล้ว!!

อันที่จริงระบบในลักษณะนี้ มีใช้มาแล้วเป็นเวลาหลายปี อาทิ แอพพลิเคชั่นในสมาร์ตโฟนเรือธงจากค่ายซัมซุง ประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากการใช้กล้องส่องไปยังเป้าหมาย เพื่อแปลภาษาต่างๆ

ขณะที่ระบบของทางกูเกิ้ลนั้นอาจมีความได้เปรียบกว่า เนื่องจากอาศัยเอไอที่สามารถเรียนรู้เองได้ และฐานข้อมูลรวมของกูเกิ้ลที่กว้างขวาง ทำให้มีความถูกต้องแม่นยำสูง เหมือนกับที่ กูเกิ้ล ระบุว่า กูเกิ้ล เลนส์ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลภาพผ่านเอไอที่มีความสามารถในการเรียนรู้ และใช้เอไอนั้นในการแสดงข้อมูลที่ถูกต้องออกมา

การสาธิตดังกล่าวนั้นเรียกเสียงปรบมือและโห่ร้องจากบรรดาผู้เข้าชมจำนวนมาก โดยกูเกิ้ล เลนส์ สามารถบอกพันธุ์ของดอกไม้ตัวอย่างได้อย่างแม่นยำ

ซีเน็ต ระบุว่า ผู้ใช้สามารถใช้ กูเกิ้ล เลนส์ เพื่อแสดงข้อมูลจากภาพได้ง่ายดายเพียงใช้กล้องของสมาร์ตโฟนส่องไปยังเป้าหมาย อาทิ สถานที่สำคัญ และพืชชนิดต่างๆ โดยในอนาคต กูเกิ้ล เลนส์ อาจวิเคราะห์ไปได้ถึงพันธุ์สัตว์ หรือแม้กระทั่งสินค้าว่าเป็นของแท้หรือปลอมด้วย

หนึ่งในการสาธิตที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมจำนวนมาก คือ การกรอกบัญชีและรหัสผ่านในสมาร์ตโฟนเพื่อเชื่อมต่อไปยัง ไว-ไฟตามสถานที่ต่างๆ หลายคนคงทราบดีว่ามันอาจยุ่งยากแค่ไหนในบางเวลา แต่ด้วยกูเกิ้ล เลนส์ ผู้ใช้เพียงใช้กล้องสมาร์ตโฟนส่องไปยังข้อมูลของผู้ให้บริการที่ปรากฏข้อมูลอย่าง ชื่อ ไว-ไฟ และรหัสเข้า เจ้ากูเกิ้ล เลนส์ จะประสานกับ กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ เชื่อมต่อสู่ไว-ไฟนั้นให้ผู้ใช้ทันที

นอกจากนี้ กูเกิ้ล เลนส์ยังเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับร้านค้าเป้าหมายที่ผู้ใช้สนใจ เพียงผู้ใช้ส่องกูเกิ้ล เลนส์ไปยังป้ายของร้านค้านั้นๆ กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ จะเรียกข้อมูลด้านต่างๆ ขึ้นมา อาทิ รีวิวร้านค้า สาขาที่ใกล้ที่สุด หรือทางเลือกอื่นๆ เมนูอาหาร และเบอร์ติดต่อ
แอนดรอยด์ โอ (Andriod O)

โอเอสที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลกแซงหน้าวินโดวส์ของไมโครซอฟท์ไปแล้ว ล่าสุด ตัวเลขอยู่ที่กว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก โอเอสแอนดรอยด์ โอ ถือเป็นแอนดรอยด์รุ่นต่อไปของกูเกิ้ล โดยทางกูเกิ้ลเปิดตัวเวอร์ชั่นสำหรับผู้พัฒนาไปเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ภายในงานกูเกิ้ล ไอ/โอ 2017 จึงถือเป็นการเปิดตัว แอนดรอยด์ โอ อย่างเป็นทางการ (แต่ทางกูเกิ้ลยังไม่เฉลยว่า โอ นั้นจะเป็นขนมหวานชนิดใด) พร้อมกับแอนดรอยด์ โก (Andriod Go) ซึ่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นที่มีขนาดเล็กสำหรับอุปกรณ์สื่อสารที่มีสเป๊กไม่สูงนัก

ทางกูเกิ้ล ระบุว่า แอนดรอยด์ โอ ได้รับการปรับปรุงการทำงานในรายละเอียดเพื่อทำให้ความรวดเร็วในการใช้งานเพิ่มขึ้น มีการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีระบบรักษาความปลอดภัยมากขึ้นด้วย

กูเกิ้ล โฮม (Google Home)

ผลิตภัณฑ์ลำโพงไร้สายที่กูเกิ้ลหมายมั่นให้เป็นศูนย์กลางการรับคำสั่งของนวัตกรรมอินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง หรือไอโอที เชื่อมต่อกับปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ “กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์” มาปีนี้ ทาง กูเกิ้ลประกาศว่าจะอัพเกรดระบบใหม่ส่งผลให้ กูเกิ้ล โฮม เข้าหาผู้ใช้มากขึ้น โดยจะแนะนำพูดคุยกับผู้ใช้ผ่านข้อความเตือน (notification) ในสมาร์ตโฟน

ผู้ใช้สามารถรับรู้ตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะต่างๆ หรือแม้กระทั่งเปิดรายการโปรดในช่อง HBO ให้ผู้ใช้ชมได้ด้วย หาก ผู้ใช้มีสมาร์ตทีวีประเภทแอนดรอยด์ทีวี

กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ (Google Assistant)

กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ เอไอผู้ช่วยของกูเกิ้ลยังได้รับการอัพเกรดใหม่ให้มีประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูล และการแปลคำสั่งเสียงจากภาษาที่มากขึ้น สำเนียงที่มากขึ้น แต่หากผู้ใช้ไม่สะดวกใช้เสียงสั่ง ก็สามารถพิมพ์คุยกับกูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ภาพผ่านระบบที่เรียกว่า กูเกิ้ล เลนส์ อาทิ วิเคราะห์ว่าดอกไม้เป็นสายพันธุ์ใด หรือแม้กระทั่งช่วยแปลภาษาด้วยการใช้กล้องส่องข้อความ แบบเดียวกับแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในซัมซุงมาหลายปีแล้ว

แต่ระบบของทางกูเกิ้ลนั้นจะอาศัยความได้เปรียบเชิงฐานข้อมูลที่มีความกว้างกว่า และสุดท้าย กูเกิ้ล แอสซิสแทนต์ สนับสนุนระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิ้ลแล้ว

กูเกิ้ล โฟโต้ (Google Photos)

กูเกิ้ลมองว่า สังคมออนไลน์คือพื้นที่แห่งการแบ่งปัน ดังนั้นแอพพลิเคชั่นอย่าง กูเกิ้ล โฟโต้ ต่อไปจะเข้าหาผู้ใช้มากขึ้น ด้วยการแนะนำให้แชร์ภาพ หรือแนะนำบุคคลที่น่าจะสนใจใน ภาพนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมีความชาญฉลาดในการสร้างอัลบั้มภาพ หรือโฟโต้ บุ๊ก โดยอัตโนมัติให้ผู้ใช้ด้วย ซึ่งทางกูเกิ้ลอยู่ระหว่างการนำระบบวิเคราะห์ภาพจาก กูเกิ้ล เลนส์ ไปรวมไว้ด้วย

เพื่อที่ต่อไปผู้ใช้เพียงดูภาพก็จะสามารถดึงรายละเอียดสิ่งของในภาพออกมาได้ ว่าคืออะไรบ้าง สถานที่อยู่ที่ใด เป็นต้น

เวอร์ชวล และอักเมนต์ เรียลลิตี้ (VR and AR)

เทคโนโลยีวีอาร์ที่กำลังใช้อยู่ในแว่นทะลุมิติปัจจุบัน กับเทคโนโลยีเออาร์ ซึ่งเป็นเทรนด์ต่อไปจากวีอาร์ นั่นคือการหลอมรวมมิติสมมติเข้ามาในสภาพแวดล้อมจริง ได้รับการกล่าวถึงมากในกูเกิ้ล ไอ/โอ 2017 โดยกูเกิ้ลบอกใบ้ว่า จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นแว่นวีอาร์แบบสแตนด์อะโลน ออกมาให้ชมกันเร็วๆ นี้

กล่าวคือ แว่นทะลุมิติแบบที่ไม่ต้อง ใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟน ขณะที่ตัวแว่นจะ รับรู้ถึงตำแหน่งของผู้ใช้ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของในมิติจินตนาการได้สะดวกขึ้น

ยูทูบ (YouTube)

ไม่ต้องอธิบายกันให้มากความกับแอพฯนี้ ยูทูบ เป็นเว็บไซต์วิดีโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดังนั้นเพื่อให้สอดรับกับกระแสความตื่นตัวต่อเทคโนโลยีวีอาร์ “ยูทูบ 360” จะรองรับ การถ่ายทอดสด (Live) แบบวีอาร์ (ผู้ใช้หมุนมองภาพรอบผู้ถ่ายได้เอง 360 องศา) รวมไปถึงคลิปวิดีโอแบบวีอาร์ ภายในสมาร์ตทีวี พร้อมระบบ “ซูเปอร์ แช็ต” ที่อนุญาตให้ผู้ใช้จ่ายเงินให้กับผู้ถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์ แลกกับการขอให้ผู้ถ่ายทอดทำตามความต้องการ ของผู้ชม

ส่วนบริการอื่นๆ ที่ทางกูเกิ้ลประกาศเปิดตัวในงานยังมีอีกเพียบ อาทิ ระบบตอบกลับอัตโนมัติทางจีเมล์ หรือสมาร์ต รีพลาย การเปิดแผนกใหม่อย่าง Google.ai ที่จะทำหน้าที่ค้นคว้าด้านระบบการเรียนรู้ของเอไอ รวมไปถึงการสร้างเอไอที่สามารถให้กำเนิดเอไอรุ่นใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ ตลอดจนบริการหางานแบบออนไลน์ผ่าน Google Jobs โดยกูเกิ้ลจะนำฐานข้อมูลด้านดิจิตอลที่กว้างขวางของตัวเองมาใช้ประโยชน์ด้วยการให้ผู้หางาน สามารถใช้เสิร์ชเอ็นจิ้น เพื่อหาตำแหน่งงานที่ประกาศรับโดยเฉพาะได้ เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน