เอ็นวิเดียโอด‘การ์ดจอRTX’ขายไม่ออก กำไรร่วงจนจุกเหมือนโดนหมัดเข้าท้อง
เอ็นวิเดียโอด‘การ์ดจอRTX’ขายไม่ออก – วันที่ 29 ม.ค. พีซีเกมเมอร์รายงานว่า นายเจนเซน หวง ซีอีโอของเอ็นวิเดีย ผู้พัฒนาชิพประมวลผลกราฟฟิก หรือจีพียู ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวแสดงความผิดหวังถึงยอดจำหน่ายที่ต่ำกว่าเป้าของจีพียูทูริ่ง หรือจีฟอร์ซ อาร์ทีเอ็กซ์ (GeForce RTX) ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยเปรียบเทียบว่าจุกราวกับถูกต่อยเข้าที่ท้องอย่างจัง
ความผิดหวังของนายหวงเกิดขึ้นหลังเอ็นวิเดียเปิดเผยกำไรไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.9 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท
แต่เอ็นวิเดียระบุว่า ปัจจัยหลักมาจากอัตราการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ลดลงของโลก โดยเฉพาะประเทศจีน ทำให้ความต้องการการ์ดจอเพื่อเล่นเกมน้อยลง
นายพอล ลิลลี่ จากพีซีเกมเมอร์ มองว่า เอ็นวิเดียมียอดจำหน่ายการ์ดจอในตระกูลจีฟอร์ซ จีทีเอ็กซ์ 10-ซีรีส์ เพิ่มขึ้นมหาศาล ในช่วงที่สกุลเงินคริปโตกำลังมาแรง แต่เมื่อกระแสดังกล่าวจางหายไป ส่งผลให้เอ็นวิเดียมี จีทีเอ็กซ์ 10-ซีรีส์ ค้างสต็อกจำนวนมาก เพราะเร่งผลิตไว้รองรับตลาดคริปโต
ต่อมาการเปิดตัวจีพียูทูริ่ง หรือจีฟอร์ซ อาร์ทีเอ็กซ์ ที่เอ็นวิเดียหวังให้เป็นสินค้าที่จะมาทำกำไรเป็นหลักนั้นเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง
เนื่องจากฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่มากับชิพรุ่นดังกล่าวซึ่งนายหวงระบุว่า เป็นฟีเจอร์ปฏิวัติวงการเกม เช่น การเรนเดอร์แสงเงาแบบเรียลไทม์ (Real-time Ray tracing) และการลบรอยหยักด้วยปัญญาประดิษฐ์ (DLSS) กลับยังแทบไม่มีเกมใดสนับสนุน
มิหนำซ้ำยังใช้ได้กับเฉพาะ DirectX12 ซึ่งมีในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ของไมโครซอฟท์ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ปี จึงมียอดผู้ใช้แซงหน้าวินโดวส์ 7 ที่ยังมีผู้ใช้จำนวนมากนิยม
นายลิลลี่ กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือราคา เพราะจีฟอร์ซ อาร์ทีเอ็กซ์ นั้นเปิดตัวที่ราคาสูงกว่ารุ่นก่อนๆ มาก ทั้งยังถูกนักวิจารณ์บางส่วนมองว่าใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้าหลังขนาด 12 นาโนเมตร ทำให้กินไฟมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะเป็น 7 นาโนเมตร
โดยจีฟอร์ซ อาร์ทีเอ็กซ์ 2080 ทีไอ ของบางค่ายนั้นมีราคาสูงถึงเกือบ 5 หมื่นบาท แต่มี CUDA core มากกว่าจีฟอร์ซ จีทีเอ็กซ์ 1080 ทีไอ เพียงร้อยละ 20 แต่ราคาแพงกว่าเป็น 2 เท่า
เอ็นวิเดีย ระบุว่า จีฟอร์ซ อาร์ทีเอ็กซ์ 20-ซีรีส์ นั้นเป็นชิพรุ่นที่นำเสนอเทคโนโลนีปฏิวัติวงการเกม แต่ผู้ใช้บางส่วนอาจชะลอการซื้อเพื่อรอให้ราคาของการ์ดจอรุ่นนี้ลดลง หรือรอชมประสิทธิภาพเต็มที่จากเกมในอนาคตที่จะออกมาสนับสนุนเทคโนโลยี DxR และ DLSS
“เอ็นวิเดียแข็งแกร่ง มีความคิดสร้างสรรค์ และเคยเอาชนะความท้าทายมาได้อย่างต่อเนื่อง เราจะสลัดความผิดหวังนี้ทิ้งไปและกลับมาใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” นายหวง ระบุ
