แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์ – แอปเปิ้ล เจ้าแห่งวงการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลก แห่งสหรัฐอเมริกา กลับมาเรียกเสียงฮือฮาในปีนี้อีกครั้งที่งานประชุมประจำปี ผู้พัฒนาระดับทั่วโลก หรือ WWDC 2019 ที่นครซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพราะมากับการเดินยุทธศาสตร์ใหม่ที่แสดงชัดเจนว่าจะไม่พึ่งพา “ไอโฟน” เป็นตัวชูโรงและตัวทำกำไรของบริษัทอีกต่อไป หลังจากยอดขายส่งสัญญาณลดลงเรื่อยๆ

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

นอกจากนี้ยังปิดฉากไอจูนส์ ด้วยการแตกตัวใหม่เป็น 3 แอพพลิเคชั่นแห่งความบันเทิงและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

พร้อมด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์มากมายละลานตา จนบรรดาสื่อต่างจับไฮไลต์มาให้ติดตามกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แมคโปรใหม่ที่ราคาทำเอานั่งอึ้งกันทั้งห้องประชุม หน้าจอโปร ดิสเพลย์ เอ็กซ์ดีอาร์ ไอโอเอส 13 ที่มีดาร์กโหมดมาให้ แมคโอเอส แคทาลินา และระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับไอแพดอย่างไอแพด โอเอส

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แมคโปร แรงสุดติ่ง

เริ่มกันที่เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของค่าย แอปเปิ้ลมาแต่ไหนแต่ไรอย่าง Mac Pro ที่บรรดาสาวกแอปเปิ้ลเฝ้ารอคอยรุ่นใหม่มานานแสนนานตั้งแต่ปี 2556

สิ่งที่สร้างความฮือฮาที่สุดเป็นราคาเริ่มต้นที่ 5,999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 190,000 บาท ด้วยสเป๊กแรงสุดติ่งอย่างหน่วยประมวลกลาง (ซีพียู) ตระกูล Xeon จากค่ายอินเทล มีคอร์ประมวลผลเริ่มต้นที่ 8-คอร์ หน่วยความจำแรม (แรม) 32 กิกะไบต์ (GB) หน่วยประมวลผลกราฟิก (จีพียู) Radeon Pro 580X จากค่าย AMD และหน่วยเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256 GB เริ่มจำหน่ายไตรมาสที่สามปีนี้

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

ส่วนรุ่นท็อปนั้นจะมีสเป๊กที่สูงขึ้นไปอีกอย่างจีพียู Radeon Pro Vega II จากค่าย AMD ได้รับการติดตั้งโมดูลแบบพิเศษ เรียกว่า Apple Afterburner ส่งผลให้มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงถึง 6 พันล้านพิกเซลต่อวินาที

สเป๊กรุ่นท็อปใช้ซีพียูตระกูล Xeon จากค่าย Intel แบบ 28-คอร์ แรม 1.5 เทราไบต์ (TB) แผงเมนบอร์ดมี PCIe slot ถึง 8 แผง พร้อมจีพียูข้างต้นและ Apple Afterburner เล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 8K ได้พร้อมกันแบบลื่นๆ ถึง 3 ไฟล์

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต DisplayPort และ Ethernet ความเร็วสูงสุด 10 GBps จำนวน 2 พอร์ต รวมทั้งช่องเสียบสายหูฟัง มินิแจ๊กขนาด 3.5 มิลลิเมตร ทั้งหมด ในเคสอะลูมิเนียมสวยงามที่ให้การเข้าถึงได้ 360 องศา สนนราคาที่ 33,720 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 ล้านบาท สูงสุดที่เกือบ 1.5 ล้านบาท!

ซีเน็ตระบุว่า แมค โปร รุ่นใหม่ที่แอปเปิ้ลเปิดตัวนั้นใช้การออกแบบกลับมาเป็นเคสอะลูมิเนียมแบบดั้งเดิม ซึ่งมีข้อได้เปรียบตรงที่เปิดออกแล้วทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฮาร์ดแวร์ภายในได้มากกว่าแมค โปร รุ่นเก่า (2013) ที่ออกแบบมาเป็นรูปถัง (จนได้รับฉายาว่าดีไซน์ถังขยะ) ทำให้แมค โปร รุ่นใหม่นั้นซ่อมแซมได้ง่าย และรองรับการอัพเกรดในอนาคต แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นของค่ายที่มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าออกแบบมาให้ซ่อมแซมและเข้าถึงฮาร์ดแวร์ภายในได้ยากมาก

นอกจากนี้ แมค โปร (2019) ยังเป็นการหวนกลับมาสู่ตลาดคอมพิวเตอร์ระดับเหนือชั้นพรีเมียมอีกครั้ง หลังแอปเปิ้ลละเลยตลาดดังกล่าวไปนานถึง 7 ปี โดยในช่วงเวลานี้ คอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์จากไมโครซอฟท์ต่างได้รับการเพิ่มพูนขีดความสามารถทางด้านสเป๊กต่อเนื่อง

แต่ด้วย แมค โปร รุ่นใหม่ดังกล่าวน่าจะทำให้แอปเปิ้ลสามารถแข่งขันในตลาดดังกล่าวได้อย่างเท่าเทียมแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักพัฒนาคอนเทนต์และตัดต่อวิดีโอระดับฮาร์ดคอร์

โปร ดิสเพลย์ เอ็กซ์ดีอาร์

นอกจากเครื่องแมค โปรใหม่แล้ว ที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ Pro Display XDR จอภาพรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาคอนเทนต์ระดับโปร หรือกลุ่มที่กระเป๋าหนักพอจะซื้อแมค โปร ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 156,000 บาท

จุดเด่นอยู่ที่ความสว่างที่สูงมาก จนทางแอปเปิ้ลต้องเปลี่ยนระบบ HDR เป็น XDR แทน

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

จอภาพโปร ดิสเพลย์ เอ็กซ์ดีอาร์ มีความกว้าง 31.6 นิ้ว เรโซลูชั่น 6K (6,016 x 3,384 พิกเซล) สนับสนุนระบบภาพ HDR ความสว่าง 1,000 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000 : 1 ระบบสี P3 แบบ 10-บิต หน้าจอเคลือบสารกันสะท้อนอย่างดี เชื่อมต่อด้วยพอร์ต Thunderbolt

ระบบภาพ HDR นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่หน้าจอรุ่นใหม่ดังกล่าวมีความสว่างที่สูงมากถึง 1,000 นิต (ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับจอ HDR) ยิ่งกว่าจอ HDR ทั่วไป ทางแอปเปิ้ลจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า XDR และจอภาพดังกล่าวมีระบบทำความเย็นที่ส่งผลให้จอแสดงผลวิดีโอบนระบบ XDR ได้อย่างต่อเนื่องไม่จำกัดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีหลอดแบ๊กไลต์แบบ full-array และพื้นที่ dimming มาถึง 576 จุด มากกว่าโทรทัศน์ส่วนใหญ่ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน ส่งผลให้มีอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000 : 1 ถือเป็นจอภาพมาตรฐานเรตินาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิ้ลเคยผลิตออกมา โดยความละเอียด 6K นั้นถือว่าเหมาะสม เพราะกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่ม ผู้ผลิตคอนเทนต์แบบวิดีโอ

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แต่การเปิดตัวจอภาพโปร ดิสเพลย์ เอ็กซ์ดีอาร์ ของแอปเปิ้ล แม้จะเรียกเสียงฮือฮา แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาสาวกแอปเปิ้ลบางส่วนในช่วงต่อมา หลังแอปเปิ้ลประกาศจะจำหน่าย “ขาตั้ง” ของจอภาพดังกล่าวแยกในราคาสูงกว่า 31,000 บาท

แอปเปิ้ลให้เหตุผลว่า ขาตั้งนี้มีความพิเศษทั้งในแง่ของวัสดุระดับพรีเมียมและคุณสมบัติการใช้งานที่ทำให้จอภาพหมุน ก้ม-เงย และปรับระดับขึ้นลงได้ แต่บรรดานักรีวิวหลายคนต่างพากันโจมตีแอปเปิ้ล ว่าเป็นความโลภและน่าเศร้าสลดอย่างยิ่ง

ไอดัน ลินช์ ผู้รีวิวรายหนึ่ง ไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน สังเกตจากข้อความโจมตีผ่านทวิตเตอร์ว่า “ขาตั้งจอภาพโปร ดิสเพลย์ เอ็กซ์ดีอาร์ของแอปเปิ้ลนั้นมีราคาที่แพงยิ่งกว่าสมาร์ตโฟนและเครื่องโน้ตบุ๊กของค่ายอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจักรวาลของแอปเปิ้ล ถือเป็นการยกนิ้วกลางอย่างกระจ่างชัดใส่หน้าบรรดาผู้บริโภคที่กำลังสนใจผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของบริษัทนี้”

แมคโอเอส แคทาลินา

นอกจากไฮไลต์ด้านฮาร์ดแวร์แล้วปีนี้แอปเปิ้ลยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการ MacOS Catalina ที่กำลังจะมาถึงในไตรมาสที่สามปีนี้

และถือเป็นการสิ้นสุดการให้บริการแอพพลิเคชั่น iTunes ที่ถูกแทนที่ด้วย 3 แอพฯ หลัก ได้แก่ แอปเปิ้ล มิวสิค, แอปเปิ้ล พ็อดแคสต์ และแอปเปิ้ล ทีวี

แมคโอเอส แคทาลินา นอกจากไฮไลต์ด้านฮาร์ดแวร์แล้วปีนี้แอปเปิ้ลยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการ MacOS Catalina ที่กำลังจะมาถึงในไตรมาสที่สามปีนี้ และถือเป็นการสิ้นสุดการให้บริการแอพพลิเคชั่น iTunes ที่ถูกแทนที่ด้วย 3 แอพฯ หลัก ได้แก่ แอปเปิ้ล มิวสิค, แอปเปิ้ล พ็อดแคสต์ และแอปเปิ้ล ทีวี ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการให้ผู้ใช้เครื่องแมครันแอพฯ ที่ออกแบบมาเฉพาะไอแพด (iPad) ได้ โดยดาวน์โหลดได้ทาง Mac App Store และใช้ไอแพดเป็นจอภาพแสดงผลแทนมอนิเตอร์ได้ด้วย สำหรับบรรดานักพัฒนาแอพฯ ดาวน์โหลด MacOS Catalina developer beta ได้แล้ววันนี้ ส่วนเวอร์ชั่นเบต้าสำหรับผู้ใช้ทั่วไปนั้นจะเปิดให้ใช้ได้ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้ และเวอร์ชั่นเต็มตามออกมาในช่วงไตรมาสที่สาม ผู้ที่จะใช้แมคโอเอส แคทาลินา จะต้องมีเครื่องแมคบุ๊ก (2015) หรือใหม่กว่า แมคบุ๊ก แอร์ แมค มินิ หรือไอแมค (2012) หรือใหม่กว่า ไอแมค โปร (2017) หรือใหม่กว่า และเครื่อง แมค โปร (2013) หรือใหม่กว่า

ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการให้ผู้ใช้เครื่องแมครันแอพฯ ที่ออกแบบมาเฉพาะไอแพด (iPad) ได้ โดยดาวน์โหลดได้ทาง Mac App Store และใช้ไอแพดเป็นจอภาพแสดงผลแทนมอนิเตอร์ได้ด้วย

สำหรับบรรดานักพัฒนาแอพฯ ดาวน์โหลด MacOS Catalina developer beta ได้แล้ววันนี้ ส่วนเวอร์ชั่นเบต้าสำหรับผู้ใช้ทั่วไปนั้นจะเปิดให้ใช้ได้ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้

และเวอร์ชั่นเต็มตามออกมาในช่วงไตรมาสที่สาม ผู้ที่จะใช้แมคโอเอส แคทาลินา จะต้องมีเครื่องแมคบุ๊ก (2015) หรือใหม่กว่า แมคบุ๊ก แอร์ แมค มินิ หรือไอแมค (2012) หรือใหม่กว่า ไอแมค โปร (2017) หรือใหม่กว่า และเครื่อง แมค โปร (2013) หรือใหม่กว่า

ไอแพด โอเอส

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แอปเปิ้ลยังสร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับเครื่อง iPad โดยเฉพาะ เรียกว่าไอแพ็ดโอเอส เพื่อให้ไอแพดเป็นอุปกรณ์ใช้แทนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้อย่างเต็มที่ และเชื่อมต่อ โอนถ่ายไฟล์ไปมาระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้แมคโอเอสได้อย่างราบรื่น จากเดิมที่ iPad นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ iOS

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แอปเปิ้ลจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีในช่วงไตรมาสที่สามปีนี้ ผู้ใช้ต้องมีไอแพด แอร์ 2 ไอแพ็ด มินิ ไอแพด โปร ทุกรุ่น

ไอโอเอส 13

เช่นเดียวกันกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไอโฟนจะได้รับการอัพเกรดเป็น iOS 13 ในช่วงปลายปีนี้

ฟีเจอร์หนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด คือ Dark mode ซึ่งกำลังเป็นธีมที่นิยมมากในหมู่ผู้ใช้สมาร์ตโฟน เนื่องจากสบายตาและประหยัดพลังงาน

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

อีกฟีเจอร์ถัดมาเป็นการลากนิ้วบนปุ่มเพื่อพิมพ์ เรียกว่า QuickPath Typing มีประโยชน์มากสำหรับการพิมพ์มือเดียว ทำให้ผู้ใช้ไอโอเอสได้ใช้ฟีเจอร์นี้ในที่สุด หลังชาวแอนดรอยด์ใช้กันมานานหลายปีแล้ว

ไอโอเอส 13 ยังมีเครื่องมือการตกแต่งภาพมาให้เพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ การปรับสี ความสว่างและการหมุนภาพ รวมไปถึงฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพในแอพฯ Photo ที่จะจัดระเบียบและอัลบั้มให้โดยอัตโนมัติเพื่อการค้นหาที่ง่ายขึ้น แอปเปิ้ลยังรวมแอพฯ Find My Phone เข้ากับ Find My Friends กลายเป็นแอพฯ Find My ลากยาวไปถึงมาตรฐานรักษาความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ผ่าน Sign in with Apple ป้องกันไม่ให้แอพฯ ต่างๆ นำอีเมล์ของผู้ใช้ไปส่งต่อ นอกจากนี้ Siri ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ของแอปเปิ้ล ยังได้รับการอัพเดตเสียงใหม่ที่มีความสมจริงมากขึ้น

แอปเปิ้ล 2019 ไฮเทคผสมไฮเอนด์

แอพฯ ใหม่ที่จะมาพร้อมกับไอโอเอส 13 ได้แก่ Mail ที่ได้ฟอนต์ใหม่ Notes รูปแบบแกลเลอรี่ใหม่ Reminders บันทึกข้อความเตือนพร้อมระบุวันเวลาเตือนได้ Smart lists บันทึกข้อความเตือนพร้อมกันทั้งผู้ใช้และคู่สนทนาได้ เช่น ผู้ร่วมประชุม เป็นต้น และ Maps ที่มาพร้อมกับ Apple Carplay รวมถึงแผนที่แบบใหม่ที่มีความละเอียดกว่าเดิม

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ยังมีการส่งสายโทร.เข้าประเภทสแปม เข้าสู่วอยซ์เมล์ และตัดเสียงสายเรียกเข้าที่ไม่มีประวัติ

นอกจากนี้ยังสนับสนุนแอพฯ 3D AR การทำงานของ Face ID เร็วขึ้นร้อยละ 30 ฟอนต์ใหม่ เปิดแอพฯ เร็วขึ้นเป็นสองเท่า ไฟล์ดาวน์โหลดเล็กลงครึ่งหนึ่ง โหมดใหม่สำหรับช่วงการใช้งานเบาบาง และสนับสนุนแป้นพิมพ์ 38 ภาษา

โดย จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน