สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 27 มิถุนายน 2561 ปิดที่ 1,618.66 จุด ปรับตัวลดลง -5.32 จุด คิดเป็น -0.33% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,638.73 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,615.38 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 52,323.36 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,060.58 จุด ปรับตัวลดลง -4.62 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 30.31 จุด โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดผันผวน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งจุดยืนในการคว่ำบาตรอิหร่านของรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 13.41 จุด ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดร่วง 31.33 จุด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดร่วง 525.14 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับนานาประเทศ

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดลบ 70.23 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐได้เรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,545.40 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,365.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +4.50 บาท คิดเป็น +3.42%
3. SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,021.51 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,976.66 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.63%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,927.74 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -1.97%

ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อ โดยในช่วงเช้าขยับขึ้นไปทำ New high วันต่อวัน ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ในลักษณะกระโดดเปิด GAP ก่อนที่ดัชนีจะเริ่มไหลกลับลงมาในช่วงก่อนปิดตลาดภาคเที่ยง และลงมาปิด GAP ที่เปิดเอาไว้ในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นการอ่อนตัวกลับลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันอีกครั้ง ซึ่งวันนี้จะขยับลงมาแถวๆ 1,627-1,625 จุด หากวันนี้(28) ดัชนีดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นดังกล่าวไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีก ดัชนีน่าจะซึมลงต่อหลุด 1,619 จุดได้ต่อไป โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,608 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน