สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2561 ปิดที่ 1708.28 จุด ปรับตัวลดลง -13.73 จุด คิดเป็น -0.80% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1718.41 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1700.69 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 53,472.74 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1132.47 จุด ปรับตัวลดลง -10.99 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.32% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เพราะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 2% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ภายหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 1.03% เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นโตเกียวเช่นกัน

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,018.85 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.95%
2. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,554.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.59%
3. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,356.40 ล้านบาท ลดลง -5.00 บาท คิดเป็น -2.30%
4. SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,037.16 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,889.44 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -1.49%

ดัชนีมีความพยายามประคองตัวในช่วงเช้าหลังจากดัชนีของตลาดในภูมิภาคปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ก่อนที่ดัชนีจะเริ่มถอยลงมาตามทิศทางตลาดอื่นๆ จนกระทั่งหลุดลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน อีกทั้งยังลงไปแตะระดับ 1,700 จุดอีกด้วย ก่อนที่ในช่วงท้ายตลาดจะมีแรงซื้อกลับในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเล็กน้อย

ดังนั้นวันนี้(3) หากดัชนีประคองตัวยืนหรือปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 75 วันที่ระดับ 1,708-1,707 จุดไมได้เป็นอย่างน้อย มีโอกาสที่ดัชนีจะไหลลงซึมต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ระดับ 1,689 จุดได้ต่อไป สำหรับแนวต้านอยู่แถวๆ 1,714 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน