รายงานข่าวจาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากผู้ลงทุนและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บริษัท ดีบี โฮลด์ จำกัด (มหาชน) (DB Hold) ชักชวนประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้เข้าร่วมลงทุน โดยเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน พร้อมกับเสนอขายโทเคนดิจิทัล รวมมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในโครงการต่างๆ อาทิ แพลตฟอร์มเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้วยคริปโทเคอร์เรนซีสกุลดีบีคอยน์ หรือดีบีโทเคน การลงทุนในระบบบล็อกเชน และลงทุนในธุรกิจอื่น โดยที่ DB Hold ไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์และโทเคนดิจิทัล
อย่างไรก็ดี การกระทำข้างต้นของ DB Hold อาจเข้าข่ายเป็นการชักชวนและเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่และโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนเป็นการทั่วไป ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้ลงทุนอย่าหลงเชื่อ หากถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนกับ DB Hold ในลักษณะข้างต้น โดย ก.ล.ต. ได้สั่งการให้ DB Hold ยุติการชักชวนผู้ลงทุนในลักษณะดังกล่าวแล้ว
อนึ่ง ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบว่าผู้ที่เสนอขายหลักทรัพย์ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือไม่ ได้ที่ www.sec.or.th นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีผู้ออกโทเคนดิจิทัลรายใดได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. ดังนั้น หากผู้ลงทุนถูกชักชวนให้ลงทุนในโทเคนดิจิทัล หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัยหรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย โปรดแจ้ง Help Center ของ ก.ล.ต. ที่เบอร์ 1207
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อหาแนวทางควบคุมการซื้อขายและโอนหุ้นบริษัทจดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากยังเป็นช่องโหว่ที่นำไปสู่การหาผลประโยชน์ในทางที่มิชอบ ภายหลังจากมีคดีโกงเงินบิตคอยน์มูลค่าเกือบ 800 ล้านบาท ที่มีชื่อบริษัทจดทะเบียนเข้าไปเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการติดตามการซื้อขายหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งและได้มีการประสานข้อมูลไปยังบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ โดยหลังจากการเข้าไปตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายก็ไม่พบว่ามีการสร้างราคาหุ้นดังกล่าว ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตราการตรวจสอบติดตามการซื้อขายหุ้นทุกวัน พิจารณาทุกหลักทรัพย์ หากพบว่ารายการซื้อขายรายการใดที่มีนัยยะสำคัญจะแจ้งไปยัง ก.ล.ต ให้รับทราบเพื่อตรวจสอบ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ใช้การขึ้นเครื่องหมายบนหลักทรัพย์เพื่อเตือนนักลงทุน เช่น เครื่องหมาย C หรือ Caution เพื่อให้พิจารณานักลงทุนพิจารณาการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ อย่างรอบคอบ
