นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ธนาคารร่วมกับเชลล์ และบางจาก เปิดตัวบัตรเครดิตน้ำมันร่วมเชลล์-บางจาก หรือฟลีทการ์ด (Fleet Card) สำหรับลูกค้าธุรกิจสามารถใช้บัตรเครดิตน้ำมันชำระเงินแทนเงินสดได้ที่สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) เชลล์และบางจากครอบคลุม 1,600 แห่งทั่วประเทศ โดยบัตรจะกำหนดวงเงินสำหรับการเติมน้ำมันต่อครั้ง ต่อวัน ต่อสัปดาห์หรือต่อเดือน รวมถึงกำหนดชนิดของผลิตภัณฑ์ที่จะเติมได้
นอกจากนี้ ยังมีข้อดีให้ธุรกิจสามารถดูรายการวงเงินคงเหลือรายบัตรแบบเรียลไทม์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลการเติมน้ำมันแต่ละครั้งผ่านเว็บฟลีท การ์ดไว้ด้วย เช่น วัน เวลา ชื่อปั๊ม ปริมาณที่เติมกี่ลิตร คิดเป็นจำนวนเงินกี่บาท เลขกิโลเมตร และแสดงอัตราการสิ้นเปลืองของปริมาณน้ำมันต่อกิโลเมตร พร้อมแสดงข้อมูลรายละเอียดของปั๊ม เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ นำข้อมูลไปขอคืนภาษีจากกรมสรรพากรได้สะดวก และมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 55 วัน
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การออกบัตรเครดิตน้ำมันร่วมเชลล์-บางจาก ดำเนินการภายใต้ระบบของธนาคารทหารไทย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกด้านปั๊มน้ำมันให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลาย และครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจขนส่งมากขึ้น จะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บัตรดังกล่าวสามารถใช้ได้ที่ปั๊มบางจากทั้งบนเส้นทางสายหลักและสายรองครอบคลุมทุกภูมิภาคที่มีมากกว่า 1,100 แห่ง คาดจะช่วยเพิ่มยอดขายน้ำมันผ่านฟลีท การ์ดของบางจากโต 10% คิดเป็นปริมาณ 1 ล้านลิตรต่อเดือนในปี 2562 จากปัจจุบันบางจากมีลูกค้าที่เป็นฟลีท การ์ด 4,900 บริษัท มียอดขาย 10-11 ล้านลิตรต่อเดือน จากภาพรวมยอดขายน้ำมันของบางจากทั้งสิ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 333 ล้านลิตร
“บางจากตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้โต 6% และปี 2562 เติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 6-7% จากยอดใช้น้ำมันของประเทศคาดเติบโต 3% และมีแผนเปิดปั๊มเพิ่มอีก 50 แห่ง เป็น 1,190 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,140 แห่ง ปีหน้าตั้งเป้าหมายมีปั๊มน้ำมันเพิ่มอีก 80 สถานีบริการ ใช้งบลงทุน 1,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายขยายปั๊มเพิ่มเป็นกว่า 1,500 แห่งภายในปี 2566 โดยคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลไปจนถึงต้นปีหน้า”นายสมชัย กล่าว
สำหรับลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไปก็มีแผนส่งเสริมการตลาดให้ใช้บัตรสมาชิกมากขึ้นด้วยโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไป โดยปัจจุบันมีสมาชิกถือบัตรบางจากกว่า 2.5 ล้านราย และเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละ 300,000-400,000 ราย อีกทั้งปีนี้บางจากยังมีแผนขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลเพิ่ม 50 สาขา และเพิ่มอีก 150 สาขาภายในปีหน้า จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 500 สาขา ตามตั้งเป้าหมายที่วางไว้ในแผนธุรกิจ 5 ปี ส่วนร้านสะดวกซื้อสพาร์ (SPAR) อยู่ระหว่างคิดแผนดำเนินธุรกิจหลังจากที่ผ่านมายอดขายเติบโตได้ 6-7%
ด้านน.ส.อรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บัตรเครดิตน้ำมันร่วมเชลล์-บางจากสามารถใช้บริการได้ที่ปั๊มเชลล์ทุกสาขาทั่วประเทศ ตอบโจทย์สำหรับการทำธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมไร้เงินสดในปัจจุบัน ช่วยทำให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายและบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้การให้บริการเติมน้ำมันเกิดความปลอดภัยเพราะไม่ต้องใช้เงินสด
