นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (12-16 พ.ย.) มีแนวโน้มผันผวนตามทิศทางตลาดโลกอยู่ โดยเฉพาะปัจจัยจากประเทศสหรัฐฯ จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อในตลาดพันธบัตรสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวจากผลของสงครามการค้ามากกว่าปัจจัยอื่น ส่วนผลเลือกตั้งที่จบลง พรรคเดโมแครตกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาฯล่าง เป็นการสั่นคลอนต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯอยู่พอสมควรและถือเป็นลบต่อตลาดหุ้น แต่ KTBST คาดว่าจะเป็นผลดีต่อประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยในเรื่องการเจรจาการค้าเพราะมีแนวโน้มที่สหรัฐฯจะประนีประนอมกับประเทศอื่นๆมากขึ้นหลังเริ่มเห็นผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อีกปัจจัยสำคัญคือเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งมีโอกาสสูงที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ของปีนี้ ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันที่ 18-19 ธ.ค. นี้ ส่งผลให้นักลงทุนยังคงมีการปรับพอร์ตต่อเนื่อง และมีผลต่อแรงซื้อขายในตลาดหุ้นเกิดใหม่ด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากสัปดาห์ที่ผ่านมามีเงินทุนเริ่มกลับเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) แต่ช่วงปลายสัปดาห์ค่าเงินและตลาดหุ้นมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติออกมา สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางตลาดของประเทศเกิดใหม่สัมพันธ์กับตลาดสหรัฐฯ

ส่วนราคาน้ำมันดิบต้องจับตาดูการประชุมฉุกเฉินของผู้ผลิตน้ำมันว่าจะลดการผลิตลงหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ร่วงลงมาปิดที่ระดับ $69.9 และ 60 เหรียญ ตามลำดับ สะท้อนถึงความกังวลต่อปริมาณที่สูง

ด้านปัจจัยในประเทศกำไรไตรมาสของตลาดเติบโตตามคาดล่าสุดอยู่ที่ 1.51 แสนล้านบาท +26% YoY ; +4% QoQ แต่หากไม่นับรวม กลุ่มธนาคาร, พลังงาน, ปิโตรเคมีแล้ว ขยายตัวเพียง 6.5% YoY และ -5.2% QoQ แสดงให้เห็นว่ากำไรตลาดเติบโตเพียงบางตัวเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องจับตาดูผลประกอบการของหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งอาจไม่เติบโตดีเหมือนกำไรของตลาด

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST คาดว่า ดัชนีจะวิ่งในกรอบ 1,650-1,700 จุด โดยทิศทางตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลัก แต่ปัจจัยการเมืองในประเทศที่เดินหน้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ที่เตรียมสู่การเลือกตั้ง ถือเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ยังมีความผันผวนอยู่ จึงต้องเน้นลงทุนแบบ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” แต่เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นดีที่ราคาลงมามาก โดยหุ้นเด่นในสัปดาห์นี้ KTBST เน้นหุ้นที่มีความแข็งแรงเหนือดัชนีฯ ได้แก่ หุ้น KBANK, GULF, MTC, ROBINS, BTS, GUNKUL, UTP, KCE

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน