สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ปิดที่ 1,638.83 จุด ปรับตัวลดลง -13.47 จุด คิดเป็น -0.82% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,658.02 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,638.67 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 44,194.26 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,086.32 จุด ปรับตัวลดลง -7.76 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 0.81% หลังจากราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า แอปเปิลอาจประสบปัญหายอดขาย iPhone ที่ตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อภาคธนาคาร
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนจับตานางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงต่อสภาสามัญชนในวันนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งสูงขึ้น 1.36% ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลราคาบ้านที่บ่งชี้ถึงเสถียรภาพในตลาด รวมทั้งความคืบหน้าในการเตรียมข้อเสนอด้านการค้าให้กับคณะทำงานของสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.20% เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า ภาคการธนาคารของสหรัฐอาจเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,830.76 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.51%
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,287.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.38%
3. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,191.16 ล้านบาท ลดลง -3.50 บาท คิดเป็น -1.93%
4. BJC มูลค่าการซื้อขาย 1,877.76 ล้านบาท ลดลง -5.50 บาท คิดเป็น -9.82%
5. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,777.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.65 บาท คิดเป็น +2.64%
ดัชนีมีการปรับตัวลดลงในช่วงเช้าต่อเนื่องเกือบหลุดแนวรับจุดต่ำสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 1,642 จุดแล้วมีความพยายามประคองตัวดีดกลับ แต่สุดท้ายดัชนีก็หลุดลงมาทำ New low ในขณะที่ MACD ยังดีดกลับไม่ผ่านระดับศูนย์เช่นเดิม
หากวันนี้(16) ดัชนีดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,651 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อยอีก ดัชนีอาจซึมลงทดสอบแนวรับต่อไปได้แถวๆ 1,631 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
