สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2561 ปิดที่ 1,672.32 จุด ปรับตัวลดลง -0.29 จุด คิดเป็น -0.02% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,677.99 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,669.10 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 46,615.63 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,118.59 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.73 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 1.13% เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวผู้นำสหรัฐและจีนที่บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า จีนได้ตกลงที่จะ “ลดและยกเลิก” การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 100 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียและดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เนื่องนักลงทุนไม่มั่นใจผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้น 0.42% ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการ ดุลการค้า และข้อมูลเงินเฟ้อ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงอย่างหนัก 2.39% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 7 วันทำการก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,040.92 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.48%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,526.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.35%
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,361.81 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.36%
4. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,719.72 ล้านบาท ลดลง -2.50 บาท คิดเป็น -1.40%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,583.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.38%
ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่ออีกเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นแรงไปในวันก่อนหน้าและมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาเล็กน้อยในขณะที่วอลุ่มซื้อขายไม่มาก และ MACD กำลังดีดกลับขึ้นมาใกล้พ้นระดับศูนย์ หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,661-1,659 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีโอกาสรีบาวด์กลับต่อได้อีกแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,687 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
