นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์วางกรอบกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2562-2564) ด้วยบทบาทการเป็นแพลตฟอร์มตลาดทุนของประเทศ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพในการพัฒนาตลาดทุน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจและตอบสนองความท้าทายในยุคที่สภาพแวดล้อมของตลาดทุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่งของเทคโนโลยีดิจิทัล

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์จะเน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงานและดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งกระบวนการด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ ขยายขอบเขตการทำธุรกิจ แสวงหาโอกาสใหม่ด้วยเทคโนโลยี ลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการและกฎเกณฑ์ และปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ควบคู่การนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ มาปฏิบัติเพื่อพัฒนาตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม

โดยน.ส.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนขยายขอบเขตการทำธุรกิจ จะมุ่งเน้นขยายฐานผู้ลงทุนไปยังจังหวัดเมืองรองที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ลงทุนในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ความเจริญไปถึงต่างจังหวัดมากขึ้น โดยไม่จำกัดแค่หัวเมืองใหญ่ อีกทั้งการเข้าถึงข้อมูลและการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีมากขึ้น

จากข้อมูลล่าสุดพบว่าในปัจจุบันคนไทยใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 9-10 ช.ม. และในจำนวนนี้ 49.50% ใช้ธุรกรรมทางเงินผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว ขณะที่เรื่องของการลงทุนเข้าสู่วงกว้างมากขึ้นจากในอดีต ดังนั้นการขยายฐานของตลท. จากเดิมที่เน้นในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ แต่ปัจจุบันตลท. เริ่มจะขยายออกไปยังต่างจังหวัดเมืองรอง ซึ่งกลยุทธ์ของตลท. ต้องการส่งเสริมให้มีการลงทุนระยะยาว ในรูปของการออมหุ้น ออมกองทุน

“ตลท. ได้เริ่มขยายออกไปยังต่างจังหวัดเมืองรองมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนปีนี้จะให้ความสนใจมากขึ้น โดยร่วมกับบริษัทสมาชิกและบริษัทจัดการกองทุน โดยจะไปให้แผนความรู้ด้านการลงทุน จะทำให้เครื่องมือของตลาดหลักทรัพย์มาเป็นส่วนในการลงทุนให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนซึ่งจากการที่ตลท.ออกไปจัดงานในต่างจังหวัด ทำให้เห็นแนวโน้มสำคัญคือ ฐานผู้ลงทุนส่วนใหญ่มากกว่า 50% มีอายุน้อยลงหรือเป็นกลุ่มอายุน้อยกว่า 35 ปี โดยเฉพาะในวัยเพิ่งเริ่มทำงาน ให้ความสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น”น.ส.รินใจ กล่าว

นายภาร กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับฐานผู้ลงทุนตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันอยู่ที่ 1 ล้านราย โดยมีการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต 70% และผ่านโบรกเกอร์ 30% ขณะที่ตลท. ตั้งเป้าขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ปีละ 100,000 คน พร้อมกำหนดเป้าหมายระยะยาวในปี 2566 จะมีมูลหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เทียบเท่าตลาดหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคปเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน ที่ 30 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 150% ของจีดีพี โดยเพิ่มจากปัจจุบันมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 16.66 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 108% ของจีดีพี และตั้งเป้าหมายมูลค่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันที่ 95,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 47,421.36 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน